
ประวัติ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
แม้จะยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ แต่ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ก็มั่นใจในชัยชนะเหนือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ที่ต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำสหรัฐเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ซึ่งวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับว่าที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาคนใหม่คนนี้กัน สำหรับ โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดิน จูเนียร์ (Joseph Robinette Biden, Jr.) หรือเรียกสั้นๆว่า โจ ไบเดน
เกิดที่เมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 และอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบ จึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์ จนปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513
ประวัติทางด้านการศึกษา โจ ไบเดน เกิดในเมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์จวบจนปัจจุบัน
ด้านการศึกษา ไบเดน จบปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ ม.เดลาแวร์ (พ.ศ.2508) และ นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ม.ซีราคิวส์ รัฐนิวยอร์ก (พ.ศ. 2511)
ด้านการทำงาน ไบเดน ประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513 ไบเดินเข้ามารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกในปี 2515 ซึ่งการเลือกตั้ง ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ
จากนั้น เขาก็ชนะการเลือกตั้ง นับว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ครองตำแหน่งมานานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์ โดยประสบการณ์การทำงานของไบเดนมีรายละเอียดดังนี้
2511-2512 ทนายความในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์
2513-2515 สมาชิกสภาเทศมณฑลนิวคาสเซิล รัฐเดลาแวร์
2516-2552 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว.รัฐเดลาแวร์ สมัยแรกปี 2516 และชนะเลือกตั้งส.ว.อีก 6 สมัย
2530-2548 รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมวุฒิสภา
2544-2546 และ 2550-255 รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศวุฒิสภา
2552-2560 ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี คนที่ 47 ในสมัย บารัค โอบามา
2562-2563 ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ทั้งนี้ โจ ไบเดน เป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศมายาวนานจนเป็นประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ศิลปะการเจรจาของเขาเคยนำมาซึ่งความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐและการเข้าแทรกแซงในสงครามบอสเนีย เขาออกเสียงสนับสนุนนโยบายการแก้ปัญหาอิรัก แต่ต่อมาได้ประกาศจุดยืนว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าว นอกจากนั้น ไบเดนยังได้ดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมาธิการศาลยุติธรรมสำหรับสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย
ทั้งนี้ แม้จะยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ แต่ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ก็มั่นใจในชัยชนะเหนือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ที่ต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำสหรัฐเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน
เรียบเรียง siamtoday