หมอยง แนะวิธีป้องกัน ไวรัส RSV ชี้หายแล้วยังเป็นได้อีก
จากกรณี พบเชื้อไวรัส RSV ระบาดหนักในคนไข้เด็กทั่วประเทศ ซึ่งทางการแพทย์กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากไวรัสตัวนี้ ยังไม่มียาต้านหรือวัคซีนเฉพาะทาง ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการเท่านั้น ซึ่งว่ากันว่า มันมีการระบาดหนักในบ้านเรามากกว่าการระบาดของโควิด-19 เสียด้วยซ้ำ ล่าสุด นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โพสต์ในเฟซบุ๊ก ถึงที่มาของ ไวรัส RSV และแนวทางป้องกันการติดเชื้อของไวรัสในเด็กเล็ก
โดยระบุว่า RSV (Respiratory Syncytial Virus) RSV ยังพบมีการระบาดอย่างมากในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี สายพันธุ์ที่พบในปีนี้เป็น RSV-A ทั้งหมด ซึ่งต่างกับปีที่แล้ว พบทั้ง 2 สายพันธุ์คือ A และ B สายพันธุ์ย่อยของ A ที่พบจะเป็น ON1 ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้แล้ว เป็นอีกได้ จึงไม่แปลกที่เมื่อปีที่แล้วเป็น ปีนี้ก็มีโอกาสเป็นได้อีก
การระบาดเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ โดยพบมากในเด็กอนุบาล ตั้งแต่เดือนกันยายนมาจนถึงปัจจุบัน แนวโน้มของโรคยังไม่ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับทุกปี ปีนี้จะมีการระบาดช้ากว่า
อาการสำคัญคือมีไข้และอาการของระบบทางเดินหายใจในเด็กที่มีอาการมากจะมีอักเสบของหลอดลม ทำให้หายใจเร็วหรือหอบในเด็กเล็กที่น้อยกว่า 1 ปีหากมีอาการปอดอักเสบร่วมด้วยได้ โรคนี้ไม่มียารักษา จะรักษาตามอาการ หายได้เองปัจจุบันไม่มีวัคซีนในการป้องกัน การป้องกันดีที่สุด คือดูแลเรื่องสุขอนามัยในเด็กเล็ก การล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยสำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่มีความจำเป็นเพราะ เกิดได้กับทุกวัยแต่ในเด็กเล็กจะมีอาการมาก
ทุกคนดูแลตัวเองจะป้องกันไม่ให้นำเอาเชื้อโรคไปสู่เด็กเล็ก การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาล เด็กที่ป่วยหรือไม่สบายเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ ไม่ควรไปโรงเรียน เด็กอนุบาล ที่อยู่รวมกัน ดูแลสุขอนามัย สถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทได้ดีทำความสะอาดเครื่องใช้ของเล่นอยู่เป็นนิจ ถ้ามีการระบาดหรือมีผู้ป่วยหลายรายควรปิดชั้นเรียน
อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ปกครองเด็ก ช่วยสังเกตอาการของบุตรหลานของท่าน หากมีอาการข้างต้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
ขอบคุณ Yong Poovorawan
เรียบเรียง siamtoday