วันที่ 29 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดสำนักงานให้ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบเอกสารหลักฐานการรับเงินบริจาคน้ำท่วม เมื่อปี 2562 พร้อมเปิดเผยยืนยันว่า เงินทุกบาทนั้นถูกใช้อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีการทุจริตแต่อย่างใด

ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

โดย บิณฑ์ ได้มีการไลฟ์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ด้วยว่า ตนไม่เข้าใจว่าการที่จะออกมาปกป้องสถาบัน เป็นความผิดร้ายแรงหรือ ถึงทำให้คนออกมาโจมตี ทั้งที่ก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เทิดทูนสถาบัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ตนคนเดียว แต่ยังมีประชาชนคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่เห็นด้วย

ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

หากตนทำสิ่งที่ไม่ดี เช่นการไปปลุกระดมให้คนเกลียดคนนั้นคนนี้ ก็ว่าไปอย่าง นี่แค่ปลุกให้คนลุกมาปกป้องสถาบันเท่านั้น ตนไม่โกรธที่ถูกขุดคุ้ย แต่อยากถามว่าเป็นอะไรหนักหนา ที่เข้ามาด่ามาว่ากัน ตนไม่เข้าใจ

ขณะที่ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยถึงสาเหตุที่บิณฑ์ ลาออกจากมูลนิธิว่า เพราะบิณฑ์มีจุดยืนคือจะปกป้องศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ลาออกเพราะไม่อยากให้มีผลกระทบกับมูลนิธิ เขามีสปิริต ส่วนตัวยังคงทำงานอยู่ เพราะเป็นหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลด้วย

ไทด์ กล่าวต่อว่า บิณฑ์จะกลับมาทำงานที่มูลนิธิอีกไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต หากบ้านเมืองสงบ ก็อาจจะมาสมัครทำงานเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่วัดพระแก้วนั้น ตนมองว่าสมควรและถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนที่อาศัยในผืนแผ่นดินที่มีจุดยืน หรือศูนย์จุดรวมจิตใจของเราคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 3 ที่ได้อยู่บนผืนแผ่นดินนี้อย่างมีความสุข ทำมาหากิน ค้าขายกัน คนไทยไม่มีภัยพิบัติต่าง ๆ ที่รุนแรงเหมือนประเทศอื่น อย่างเช่น cd ที่ผ่านมา ก็รอดพ้นเพราะบุญบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องออกมาแสดงความกตัญญูต่อผืนแผ่นดินไทย เพื่อปกป้องพุทธศาสนา ปกป้องพระมหากษัตริย์