จากกรณีรถไฟชนสนั่นรถบัสจะไปทำบุญทอดกฐิน บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้น ยืนยันเสียชีวิต 18ราย ที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้

วันที่ 12 ต.ค.มีรายงานว่า ทางด้านนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากกรณีที่มีผู้ขับขี่รถบัสนำผู้โดยสารจะไปทอดกฐินและถูกรถไฟชนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. มาตรา ๖๓ บัญญัติว่า ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือส่ิงปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้

เหตุเกิดขึ้นเพราะผู้ขับขี่รถบัสไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน พรบ.จราจรทางบก มาตรา ๖๓ จึงเป็นการขับขี่รถโดยประมาทนั่นเองและเป็นเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

ผู้ขับขี่รถบัสคันนี้และเจ้าของรถคันนี้ซึ่งเป็นนายจ้างของผู้ขับขี่รถบัสต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ และมาตรา ๔๒๕

สำหรับผู้ขับขี่รถบัสเสียชีวิตไปแล้วและไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากทายาทของเขาได้ จึงเหลือผู้ต้องรับผิดเพียงเจ้าของรถซึ่งนายเป็นนายจ้างของผู้ขับขี่รถบัสคันดังกล่าวเท่านั้น

ส่วนผู้ขับขี่รถไฟไม่ได้มีการประมาทใดๆ เพราะรถไฟแล่นมาบนรางรถไฟตามปกติ ดังนั้นถ้าพูดกันตามกฎหมายผู้ขับขี่รถไฟและการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ

ที่มา amarintv