มารี เจอทัวร์ลง พูดถึงนิสัยคนไทยชอบผ่อนบ้าน ชาวเน็ตบอกเราไม่รวยเหมือนพวกดารา
กลายเป็นดราม่าขึ้นมาทันที สำหรับรายการ ว่ามาดิ with Lily and Marie ทางช่องยูทูบของ มารี เบรินเนอร์ ที่มี ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา เป็นแขกรับเชิญในรายการ โดยมีช่วงหนึ่งที่พูดถึงเรื่องโปะบ้าน 12 ล้านบาท ก่อนที่สาวมารีจะพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันในคอมเมนต์
โดย ลิลลี่ ภัณฑิลา พิธีกรคู่ของมารี ถามปุ้มปุ้ยว่า ทำไมถึงเลือกโปะบ้าน 12 ล้านบาท ซึ่งปุ้มปุ้ยก็ตอบว่า เป็นเพราะอำนาจของดอกเบี้ย แต่ก่อนมีความคิดแค่กู้ง่าย ๆ ผ่อนบ้าน มีโปรโมชั่นผ่อนต่ำ พอ 3 ปี มีรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยสูงขึ้น เท่านั้นแหละ ปุ้มปุ้ยก็เลยโปะยอดเลย ดอกเบี้ยนิดหน่อยไม่มีจริง ธนาคารคิดดอกเบี้ยจากยอดกู้ทั้งหมด คิดเป็น 2-3% เลย
จากนั้น มารีก็พูดขึ้นมาว่า "คนไทยมีนิสัยชอบผ่อน ประเทศอื่นเขาไม่เป็นขนาดนี้ ทุกคนจะซื้ออะไรแล้วไม่มีใครคิด คิดแค่ยอดผ่อนต่อเดือนเท่าไร แต่ถ้าลองคำนวณดู ซื้อบ้านส่วนใหญ่ก็ทำสัญญา 20-30 ปี คูณดูดิ จาก 10 ล้าน กลายเป็น 20 ล้านอะ"
ปุ้มปุ้ย กล่าวว่า "มันจะมีอยู่คำหนึ่งที่ทำให้คนกล้าผ่อน คือเอาเงินที่มีอยู่ไปหมุน วิธีคิดของปุ้ยก็คือ กูมีธุรกิจอะไรที่จะเอาเงินก้อนนี้ไปหมุน แล้วกำไรของมันล่ะ ถ้าเอามาเทียบกับดอกเบี้ยที่เอาไปกู้บ้าน คุ้มไหม ? ไม่คุ้ม"
งานนี้ดราม่าเกิดทันที โดยคนเข้ามาคอมเมนต์ติติงเรื่องที่มารีพูดถึงนิสัยคนไทยเรื่องการผ่อนบ้าน เนื่องจากค่าแรงที่ไทยไม่เยอะ อีกทั้งค่าครองชีพก็สูง ทุกคนรู้ว่าดอกเบี้ยบ้านเยอะ แต่การผ่อนบ้านก็ทำให้คนที่ไม่มีเงินก้อนสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ ต่างจากนักแสดง - อินฟลูเอ็นเซอร์ ที่มีรายได้สูง สามารถซื้อบ้านราคาเท่าไรก็ได้ในทันที แต่มนุษย์เงินเดือนไม่มีกำลังมากพอที่จะซื้อหรือรีบโปะให้จบ ถ้ามีเงินมากพอก็อยากปิดบ้านเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตอีกฝ่ายมาแก้ต่างให้ว่า มารีอาจจะหมายถึงว่า ถ้ามีเงินค่อยซื้อ ดีกว่าซื้อตอนไม่มีแล้วต้องมาผ่อนอะไรแบบนี้หรือเปล่า