สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่า ที่ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน ล่าสุด วันที่ 21 ก.ย. บลูมเบิร์ก รายงานสถานการณ์ โรคโควิด-19 แพร่ระบาดใน ประเทศพม่า หรือ เมียนมา ว่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 671 คน ถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยรายวันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ

และทุบสถิติก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ย. กับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 424 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมทั้งประเทศอยู่ที่ 5,541 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 11 ราย รวมแล้ว 94 ราย และรักษาหายอย่างน้อย 1,260 คน

ด้าน เมียนมาไทมส์ ระบุว่า นายมยิน ทเว รมว.สาธารณสุขและการกีฬาของพม่า ลงนามในประกาศฉบับที่ 107/2020 เมื่อวันอาทิตย์ เรื่องมาตรการล็อกดาวน์ในเขตย่างกุ้งทั้งหมด ยกเว้นเมืองโกโกจู้น ในหมู่เกาะโกโก ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอ่าวเบงกอล

ระบุเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเร่งยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสมรณะก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้ กับข้อปฏิบัติหลัก 8 ข้อ ได้แก่

1. เจ้าหน้าที่รัฐบาลต้องเข้าโครงการทำงานที่สำนักงาน 2 สัปดาห์ และทำงานที่บ้าน 2 สัปดาห์

2.พนักงานของบริษัทหรือองค์กรเอกชนต้องทำงานที่บ้าน ยกเว้นบุคคลด้านการธนาคาร การคลัง สถานีบริการน้ำมันและเชื้อเพลิง ปศุสัตว์ อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายน้ำดื่ม และโรงงานผลิตของใช้ส่วนบุคค

3.พนักงานโรงงานในระบบซีเอ็มพีศึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตเครื่องนุ่งห่ม ไม่อนุญาตให้ออกไปทำงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 24 ก.ย. ถึงวันที่ 7 ต.ค.

4.อนุญาตให้สมาชิกเพียง 1 คนของแต่ละครอบครัวสามารถออกนอกบ้านเพื่อซื้อของใช้-ของกินประจำวัน

5.อนุญาติให้สมาชิก 2 คนของแต่ละครอบครัวสามารถเดินทางไปคลินิกหรือโรงพยาบาลหากจำเป็น

6.ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

7.อนุญาตเฉพาะรถประจำทางที่สามารถเดินทางระหว่างเมืองได้

8.รถยนต์สามารถมีผู้โดยสารได้แค่ 1 คน รวมคนขับรถเป็น 2 คน ในกรณีโดยสารเพื่อไปร้านค้าสำหรับซื้อของจำเป็น และอนุญาตให้เพิ่มผู้โดยสารเป็น 2 คนในกรณีเดินทางไปคลินิกหรือโรงพยาบาล ผู้ใดละเมิดมาตรการล็อกดาวน์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายป้องกันโรคติดต่อ

ทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกประเทศ ผ่านพ้นวิกฤตจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้นะคะ ขอให้ทุกคนทำตามาตรการป้องกันของแต่ละพื้นที่

ขอบคุณ ลูมเบิร์ก,เมียนมาไทมส์

เรียบเรียง siamtoday