กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งสำหรับ กบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์ กับเรื่องราวเกี่ยวกับมงกุฎ ที่เจ้าตัวได้รับจากการคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ในปี 1988 (พ.ศ.2531) หลังสื่อโซเชียลบางส่วนได้มีการนำเสนอรายละเอียดระบุว่าปัจจุบันมงกุฎที่เจ้าตัวได้รับจากการประกวดนางงามเวทีดังกล่าวนั้นหาได้อยู่กับตัวเธอเองแต่อย่างใด หากแต่ได้มีการบริจาคยกให้กับวัดไปแล้ว

จนเรื่องนี้กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาและถูกพูดถึงไม่น้อยในสังคมออนไลน์ เรื่องนี้อันที่จริงก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะเรื่องราวที่สาวกบนำมงกุฎ รวมถึงสายสะพาย และคทา ซึ่งเป็นของรางวัลที่เธอได้รับจากการคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ และตำแหน่งขวัญใจช่างภาพในปี 1988 ไปมอบบให้กับวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์นั้นเคยปรากฏเป็นข่าวมานานมากแล้ว กระนั้นด้วยความที่ในช่วงเวลานั้นคนส่วนใหญ่เองยังไม่สามารถเข้าถึงสื่อในรูปแบบต่างๆ ได้สะดวกง่ายดายเหมือนปัจจุบันเรื่องดังกล่าวจึงไม่ปรากฏเป็นที่แพร่หลายมากนักแต่อย่างใด ส่วนเหตุผลในการบริจาคนั้นก็เป็นเพราะเจ้าตัวต้องการจะถวายเป็นพุทธบูชา และแสดงถึงความไม่ยึดติดในเรื่องของวัตถุต่างๆ

เนื่องจากตัวเธอมีความสนใจในเรื่องของศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก อย่างที่ทราบกันดีว่าเจ้าตัวได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กระทั่งจบปริญญาเอก สาขาพุทธศาสตร์ มาแล้วนั่นเอง สำหรับ กบ ปภัสรา ปัจจุบันเจ้าตัวใช้ชีวิตคู่กับนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีทายาท 1 คน คือ น้องเหนือ และล่าสุด กบ ปภัสรา เล่าเส้นทางรัก "คือเราก็บอกเขาไปว่าถ้าชอบก็ให้แม่มาขอ เขาก็บอกว่าไปอยู่ด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้เหรอ เราบอกไม่ได้ เพราะเราก็มีพ่อมีแม่ คุยกันว่าต่างคนต่างไปคุยกับพ่อแม่ตัวเองว่าจะไม่จัดงานแต่งได้ไหม เพราะทางโน้นเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว และมีลูกแล้ว เราก็คิดว่าให้ผู้ใหญ่มาคุยกัน มารับรู้ แล้วค่อยแถลงข่าวทีหลัง ผลคือแม่ของเอ๋ พรเทพ ไม่เห็นด้วย คุณแม่บอกว่าต้องจัดจะงานเล็กงานใหญ่ก็ต้องจัด เพราะลูกเขามีพ่อมีแม่ คุณแม่เขาน่ารักมาก แต่ทางแม่ของกบบอกว่าอย่างไรก็ได้ ก็แล้วแต่กบ"

เล่าด้วยว่าตอนแรกคิดจะจัดเป็นงานเล็กๆ มีแขกฝ่ายละเพียง 15 คน ครั้นจะไปขอฤกษ์ก็น่าจะยุ่งยาก เพราะไม่อยากให้มีข่าวออกไป เอ๋ พรเทพเลยขอให้ฤกษ์สะดวกคือวันที่ 18 เดือน 9 ซึ่งเป็นวันที่เธอมีงานบวงละครพอดี จึงตัดสินใจไปบวงสรวงตอนเช้า แล้วกลับมาก็แต่งที่คนเม้าท์ว่าเป็นหนูตกถังข้าวสาร เป็นซินเดอเรลล่าเมืองไทย กบ ปภัสรา บอกว่าเธอก็รู้ น่าจะเป็นเพราะเราเป็นนักแสดง แล้วไปแต่งงานกับตระกูลดัง เจอคำว่าตกถังข้าวสาร ก็จะนิดหนึ่ง เพราะเราคิดว่าเราก็มีของเรา วันนั้นยังไม่มีการจดทะเบียนสมรส เรามีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว มีรถขับ มีเงินในบัญชีที่จะดูแลตัวเองได้ แต่พอผ่านไปได้สักพักก็มีการจดทะเบียนสมรสทีหลัง