คฤหาสน์ นกน้อย อุไรพร จำใจขายใช้หนี้
จากสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ถาโถมเข้ามา จนทำให้หลายอาชีพได้รับผลอย่างหนัก เช่นเดียวกับวงการบันเทิงที่งานต่าง ๆ กลับหดหายไปเป็นจำนวนมาก ด้านคนบันเทิงอย่าง ‘แม่นกน้อย อุไรพร’ ศิลปินแนวลูกทุ่งหมอลำ ผู้ก่อตั้งคณะหมอลำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและโด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศ
ซึ่งจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ทำให้แม่นกน้อยต้องประกาศขายบ้านตองห้า ในราคา 70 ล้านบาท อีกทั้งพ่อหลอด สามีของ แม่นกน้อย ก็ยังไม่สบายอีกด้วย ซึ่งจากสถานการณ์นั้น แม่นกน้อยต้องเลือกระหว่างยุบวง เสียงอิสาน หรือ ขายบ้าน แม่นกน้อย เผยว่าปรึกษา พ่อหลอด แล้วจึงเลือกที่จะยอมขายบ้าน และพยุงวงเสียงอิสาน ซึ่งตอนนี้บ้านตองห้าของ แม่นกน้อย ก็ยังขายไม่ได้ และยังคิดจะขายอยู่ พร้อมเผยว่า มีหนี้สินถึง 50 ล้านบาท และช่วงที่ปลดล็อก เสียงอิสาน ก็ได้ลุกขึ้นยืนตั้งไข่อีกครั้ง ได้ลูก ๆ และศิลปิน แวะเวียนเข้ามาช่วยคอนเสิร์ต หนี้สินก็พอลดลงบ้าน
“ถามว่าตอนนี้หนี้เหลือเท่าไร เหลือเกือบเท่าเดิม (หัวเราะ) วันนี้ยังประกาศขายค่ะ มีคนติดต่อมา แต่ก็ยังคุยกันไม่ลงตัว ถามว่าทำไมแม่ประกาศขายบ้านตอง 5 ตอนที่วง เสียงอิสาน ขาขึ้น งานจองข้ามปี 3-5 ปีไม่ว่าง ตอนนั้นคุณย่า แม่ของ แม่นกน้อย ท่านยังมีชีวิตอยู่ ขอร้องแม่ว่าตอนนี้เรามีทุกอย่างแล้ว จากที่มามือเปล่าต่อสู้ชีวิต ตอนนี้เรามีบ้านอยู่ มีที่ดิน แม่เห็นหนูไปลำบาก แต่เราก็มีความสุขกับสิ่งที่เราได้ทำ นั่นคือจิตวิญญาณของแม่ ท่านขอร้องว่าให้ยุบวง แต่แม่ตอบคุณแม่ว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะยุบวง งานก็เยอะ ปั้นดินให้เป็นดาว เป็นงานท้าทายที่เราส่งเธอให้โด่งดัง พอมาถึงเวลานี้ที่จะต้องประกาศขายบ้าน พ่อหลอด บอกว่าพ่อเข้าใจแม่ งั้นให้เลือก จะประกาศยุบวงหรือขายบ้านเพื่อใช้หนี้ หากมีเงินส่วนที่เหลือจะได้มาทำวง เสียงอิสาน ต่อ แม่เลือกประกาศขายบ้านตอง 5 เลือกให้เสียงอิสานอยู่
บ้านตองห้า หลังใหญ่ เรียกว่าคฤหาสน์ เพื่อประกาศศักดิ์ศรีของหมอลำ ว่าเราได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง เป็นศักดิ์ศรีของคนอีสาน แต่วันนี้ประกาศขายบ้านเพื่อต่อลมหายใจของพ่อหลอด และลูก ๆ ยื้อ เสียงอิสาน ไว้ให้คงอยู่ ไม่ปิดตำนาน แม่จะใช้หนี้ทุกคน จะทำให้ดีที่สุดตราบที่พ่อหลอดยังมีลมหายใจอยู่” ซึ่งเจ้าตัวก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว ด้านแฟน ๆ ได้เข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจอย่างล้นหลาม