วิจารณ์ พลฤทธิ์ ฮีโร่โอลิมปิก ชีวิตหลังเลิกเป็นนักกีฬา
เปิดใจ วิจารณ์ พลฤทธิ์ ชีวิตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ยึดหลักมีวินัยใช้ชีวิตตามที่ถนัด จึงไม่เจ็บ ไม่จน เงินที่ได้มา 20 ล้าน จึงไม่สูญไป พร้อมส่งกำลังใจ พี่บาส สมรักษ์ คำสิงห์ หลายคนยังคงให้กำลังใจ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ปี 1996 ที่ถูกฟ้องล้มละลาย และถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
และแน่นอนหลายคนคิดถึงชีวิตฮีโร่นักกีฬาอีกหลายคน หนึ่งในนั้นมี วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักมวยที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ที่ซิดนีย์ 2000 ฮีโร่นักกีฬาคือคนที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ สิ่งที่ตามมาคือเงินรายได้ เงินรางวัล ที่ตอบแทนในการทุ่มเทให้ประเทศชาติ ซึ่งทั้งสมรักษ์ และ วิจารณ์ ได้รับการตอบแทนอย่างเต็มที่ รวมทั้งหน้าที่การงาน ที่ สมรักษ์ เป็นเรือเอกสมรักษ์ ส่วนวิจารณ์เป็น พ.ต.ท.วิจารณ์ จากวันที่ชีวิตพลิกเป็นฮีโร่ของคนทั้งประเทศ ทั้งสองคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน และต่างจากนักกีฬาหลายคน ที่ไม่สามารถรักษาเงิ และสร้างอนาคตใหม่ได้หลังเลิกอาชีพนักกีฬา พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ สารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีชื่อเสียงก็เลือกที่จะกลับบ้านเกิด รับราชการตำรวจ ส่วนเงินรางวัลที่เคยได้เมื่อครั้งได้เหรียญทองโอลิมปิก รวมประมาณ 20 ล้านบาท รวมของที่นสพ.มอบให้ด้วย 10 ล้านนั้น ก็ไปลงทุนในรูปแบบซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ตอนนี้ทำสวนส้มอยู่ประมาณ 25 ไร่ ที่บ้านเกิด ที่ จ.อุตรดิตถ์
"ยอมรับว่าตอนนั้น มีคนมาชวนไปลงทุนหลายอย่าง แต่เราก็ต้องรู้ตัวเองดีว่าไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจอะไร ก็ตอบปฏิเสธไปว่าไม่ถนัดเท่านั้นเอง จึงรักษาเงินไว้ได้ ส่วนการใช้ชีวิตส่วนตัว ก็กลับบ้านกินข้าวกลางวันบ้าง ผมเองก็ไม่ชอบเที่ยวเตร่อยู่แล้ว จึงใช้จ่ายอะไรไม่มากนัก" นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้ ทำให้พ.ต.ท.วิจารณ์ ที่รับราชการมาแล้ว 23 ปี ไม่ค่อยปรากฏตัวในงานสังคมเท่าไรนัก ยังมีเงินทองเหลืออยู่มากพอ สำหรับอนาคตของลูกและครอบครัว นอกจากรับราชการที่ สภ. อำเภอเมือง อุตรดิตถ์แล้ว ปัจจุบันพ.ต.ท.วิจารณ์ ยังเข้ามาช่วย เป็นผู้ฝึกสอน ในสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย สำหรับกรณีที่สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่นักมวยรุ่นพี่กำลังเจอวิกฤติ พ.ต.ท.วิจารณ์ บอกว่า "พี่บาสเป็นคนเก่ง และขอส่งกำลังใจให้พี่บาสด้วย"