น้องปราง-น้องปาว 2 ทายาท บอย ถกลเกียรติ โตแล้ว สวยระดับนางเอก

น้องปราง-น้องปาว 2 ทายาท บอย ถกลเกียรติ โตแล้ว สวยระดับนางเอก

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงทางด้าน ของทีวีที่ต้องบอกเลยว่าผลิตรายการดี ๆ ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข่าวละครหรือรายการเรียลลิตี้ที่บอกเลยว่ามีแฟนขับและผู้พบคอยติดตามมากมายสำหรับ ช่องวัน 31 นั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีผู้นำที่ดี สำหรับทางด้านของ คุณบอย ถกลเกียรติ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 ที่ทั้งเก่งและความ สามารถมากมาย สําหรับทางด้าน คุณบอย ถกลเกียรติ เจ้าตัวถือว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับละครโทรทัศน์และละครเวที ที่เก่งและมีความสามารถ มาก ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในด้านของงานในวงการบันเทิง กับงานเบื้องหลังที่เจ้าตัวนั้นได้ใหม่ฝีมือและ ศักยภาพเป็นที่ยอมรับมากมายของคนในวงการบันเทิง

เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังซึ่งเจ้าตัวยังมีผลงานทางด้านภาพยนตร์ และละครเวทีด้วย ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นผู้กำกับนั่นเอง แน่นอนว่าปัจจุบันทางด้าน บอย เจ้าตัวก็ได้ขึ้นแท่นเป็นประธานกรรมการฝ่ายบริหารสถานีโทรทัศน์ ช่องวัน 31 ซึ่งแน่นอน ว่าถ้าใครได้ติดตามจะเห็นความรักของหนุ่มบอยกับภรรยาสาวอย่าง ปริม กณิการ์ ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันเป็นที่ เรียบร้อยแล้วและได้มีลูกสาวด้วยกันสองคนสำหรับ น้องปราง และ น้องปาว นั่นเอง

แน่นอนว่าความรักของทั้งสองคน นั้นมีความสุขมาก ๆ พ่อทั้งคู่ ถือว่าใช้ชีวิตและครองรักกัน มานานเกือบเกือบ 20 ปีเป็นคู่รักที่ต้องบอกเลยว่าเหมาะสมกัน มาก ๆ สวย หล่อ ทั้งสองคน และปัจจุบันลูกสาวคนสวยทั้งสองคนอย่าง น้องปราง และ น้องปราว นั้นโตเป็นสาวสวยทั้งคู่ ส่วนใหญ่คอละครมักจะคุ้นหน้าคุ้นตาผู้ที่ชีวิตเกินครึ่งหมดไปกับการทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง แต่ใครจะคาดคิดว่า บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ผู้บริหารใหญ่บริษัทในเครือ แกรมมี่ จะมีลูกโตเป็นสาวแล้ว

คือ น้องปราง ปรางสินี กับ น้องปาว ปวรดา วีรวรรณ แถมยังสวยระดับดาราได้เลย ทั้งรูปหน้าที่คมชัดและบอดี้ที่สูงโปร่งราวกับนางแบบ ส่วนคุณแม่ ปริม กณิการ์ วีรวรรณ ที่อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จหลาย ๆ อย่างของ บอย ถกลเกียรติ ก็ดูแลเลี้ยงดูอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หลังจากนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าลูกสาวทั้งสองคนนั้นจะตามรอยผู้พ่อหรือจะฉีกวงการไปเลย บอย ถกลเกียรติ ในวันนี้ในการเป็นพ่อของลูก ในการเป็นหัวหน้าขององค์กร ในการเป็นครีเอเตอร์คนหนึ่ง

ยังเป็นคนที่เรียนรู้ไม่รู้จบ ใช้สิ่งที่เราได้เรียนรู้มาตลอดให้เป็นประโยชน์ต่อปัจจุบันและก็อนาคต มีทั้งแพชชั่นที่จะปรับเปลี่ยน และมีทั้งความเข้าใจที่จะยอมรับ สิ่งสำคัญที่สุดคือการสมดุล ทุกสิ่งที่พูดมาเราต้องสมดุลให้ได้ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่าในวันที่เราต้องมาร่วมลงทุน ถ้าย้อนไปเมื่อเวลาปี 2014-2015 พอได้ช่องมาไม่กี่เดือน ก็จะกลายเป็นดิจิตอลดิสรัปชั่น คนก็จะบอกว่าพวกที่ได้ช่องมาแย่แล้ว ไปไม่รอดแน่นอน

แต่เราก็มีความเชื่อมั่นว่าทีวีก็ยังอยู่ แต่เราจะหารายได้อะไรเพิ่มเข้ามา ทำให้เราย้อนกลับไปดูตัวเองว่าจริง ๆ เราเป็นใคร เราเป็นคนทำคอนเทนต์ไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นช่องต่าง ๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นในโลกออนไลน์ แปลว่ามันมีโอกาสเพิ่มขึ้น ก็เลยเป็นการหาอย่างอื่นมาเพิ่มมาเสริม ไม่ใช่แค่ช่องทีวี และนั้นคือ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เราไม่ใช่แค่ช่องทีวี อันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากในชีวิต มันเป็นจังหวะการตัดสินใจที่มันค่อนข้างที่จะหนักหน่วงมากอยู่เหมือนกัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ