เป็นนางเอกสายเซลล์ อ่อ ใช่ด้วยความที่ช่วงนี้ของก็ลดราคาเยอะอะไรอย่างเงี้ยเราก็ต้องวางแผนนิดหนึ่ง ว่ามีอะไรเซลล์บ้าง เพื่อที่จะได้ของดีที่สุดและก็คุ้มค่ามากที่สุดราคาเต็ม ไม่ได้แอ้ม ไม่ได้แอ้มเลยค่ะ ราคาเต็ม

เราก็จะมองผ่านตาปริบๆไปก่อน ผ่านไปอีก 2-3 เดือนเจอกันจ๊ะ มีการไปดิลไว้ก่อน ใช่ อย่างบางร้านที่ เรารู้จักเค้าอย่างเงี้ย เราก็แบบจะถามพนักงานไว้ก่อนคือจริงๆแนทเป็นคนไม่ติดแบรนด์เนมอยู่แล้ว โอเค แนทเป็นนางแบบ เวลาไปทำงานคนก็แบบ โฮ้! โก้มาก ไรอย่างเงี้ย คือจริงๆชุดเราก็ยืมมา เครื่องประดับก็ ซัพพอร์ตมาหรือแม้แต่ของที่ใช้บางอย่างที่เป็นแบรนด์เรามีโอกาสได้ไปร่วมเราก็ได้วอชเชอร์มา แต่ถ้าให้ซื้อ จริงๆแนทไม่เคยซื้อเลย และแนทได้พูดถึงละคร

หนูไม่เคยมีพ่อเลย และพอมาเล่นเจอพี่หนุ่มเป็นพ่อ คือแบบ โฮ การมีพ่อ คือแบบ เฮึ้ย มันดีมาก แค่ในบทบาทที่มีพ่อ มันทำให้เราตัวเล็กลง ละเรารู้สึกว่าบางทีเรา ไม่จำเป็นต้องต่อสู้อะไรเลย คือมีตากับมีพ่อมันไม่เหมือนกันนะคะ มันคนละความรู้สึก ตอนเล่นโนราห์ มีพ่อมัน เป็นแบบงี้หนูอินมากอย่างพระเอกเองหนูก็แบบจะรักเค้า หนูรู้สึกจริงๆในบทบาทนั้นๆ และพอ เราถ่ายเสร็จหนูก็ต้องดึงตัวเองออกมา เหมือนเป็นปราชญาสำคัญของเราเลย คือ ความเจ็บปวด ทำให้

เราเติบโตขึ้นมันก็เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ ทุกครั้งที่หนูเจ็บปวด มันสอนให้หนูได้รู้ว่าหนูได้เติบโตขึ้นและ หนูก็จริงใจกับการทำงานของหนูทุกๆอัน เมื่อกี้คือที่หนูบอกว่ามีพ่อกับตามันเหมือนกัน คือ พ่อกับแม่หนู เค้าแยกทางกัน ซึ่งหนูก็ไม่เคยรู้จักพ่อ แล้วหนูมารู้จักอีกทีตอนได้รับรางวัลชุดประจำชาติ เราโด่งดังจาก ต่างประเทศ แล้วก็มารู้ว่าคนนี้เป็นพ่อหนูก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีหรือไม่ดี เพราะหนูก็มีตาอยู่แล้ว