เผยภาพล่าสุด หนุ่ย คดีเด็ด ซูบผอมจำแทบไม่ได้
หากย้อนกลับไปหลายสิบปีที่แล้ว เรียกว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก สำหรับรายการ คดีเด็ด ที่นำเรื่องเล่าต่าง ๆ จากเจ้าพนักงาน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเรื่องสั้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่มีความตลกขบขัน มาทำเป็นละครสั้นเพื่อทำให้ผู้ชมเข้าใจง่าย ภายหลังได้เพิ่มเรื่องเล่า และคลิปจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานอื่น รวมถึงจากผู้ชมทางบ้านด้วย
นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาพข่าว ภาพจากโทรศัพท์มือถือ ภาพบันทึกการจับกุมของนักข่าว และกล้องหน้ารถ โดยก่อนเล่าเรื่องผู้พากย์จะพูดว่า “เรื่องนี้เป็นภาพจริง ไม่ได้ถ่ายทำ คนที่เห็นในภาพก็เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ตัวแสดง” และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของรายการคือ ความหน้าตายและน้ำเสียงพูดไร้อารมณ์ของพิธีกร ถึงแม้ว่ารายการจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง วิธีการเล่าเรื่องอะไรมาก แต่ก็เป็นอีกรายการช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ “คนถือรีโมท” กดแช่ทิ้งไว้อยู่ที่ช่อง 7 และถ้าเปิดดูตัวเลขเรตติ้งแล้ว บอกเลยว่า ไม่ธรรมดา เพราะเรตติ้งเกิน 2.0 อยู่มาพอสมควร และเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงสุดในช่วงเวลาบ่ายของผังทีวีดิจิทัลอีกด้วย ความบันเทิงอีกอย่างของรายการนี้ ที่หลายคนติดตามคือวลีที่กล่าวออกจากตัวของพิธีกร ‘หว่อง พิสิทธิ์ กีรติการกุล’ ที่มีจังหวะเป็นเอกลักษณ์ หน้านิ่ง ๆ พูดชัด ๆ น้ำเสียงเรียบ ๆ ถึงแม้จะไม่ได้เงยหน้าดูจอทีวี ก็รู้ทันทีว่า เสียงแบบนี้มาจาก รายการอะไรและใครเป็นคนพูด
ถึงแม้ว่าการเวลาจะเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่ความบันเทิงของรายการก็ยังคงทนถาวรอยู่ร่วมคู่กับหน้าจอช่อง 7 เป็นเวลาถึง 20 ปีแล้ว และนี่คืออีกรายการในตำนาน ที่เหนียวแน่นอยู่กับช่องเดิมตลอดระยะเวลาในการออนแอร์ ที่ทุกวันนี้หายากบนจอทีวีดิจิทัล และมีอีกหนึ่งสิ่งที่ถือเป็นภาพจำของผู้ชม คือนักแสดงมากฝีมือ อย่าง ‘หนุ่ย’ หรือ ‘อัครพงษ์ วงศ์อินทรักษ์’ ชายวัยกลางคนผู้รับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเรื่อง ที่รายการฉายครั้งไหนจะต้องเห็นเขาคนนี้อยู่เสมอ แต่ล่าสุดก็ทำเอาแฟน ๆ ที่ทราบข่าวถึงกับอึ้งหนักมาก หลังเจ้าตัวนั้นได้ออกมาโพสต์ภาพตัวเอง พร้อมเขียนข้อความขอความช่วยเหลือค่ารักษาตัว หลังจากที่เจ้าตัวนั้นไม่สบายหนัก น้ำหนักหายไปกว่า 30 กิโลกรัม โดยภาพล่าสุดของ ‘หนุ่ย’ นั้น เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปมากอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับดวงตาที่เห็นมองเห็นกลับมืดสนิทไป 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จนทำให้เจ้าตัวนั้นไม่สามารถกลับมารับงานแสดงหรืองานในวงการบันเทิงได้อีก
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamtoday.com