เต๋า สโรชา อดีตนางเอกยุค 90 ไม่ดังเพราะหน้าคล้ายคนอื่น
หลายคนอาจจะชินภาพของสาว เต๋า สโรชา ในลุคผู้หญิงหวานแสนเรียบร้อย แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าสาวเต๋าไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่เห็น จนมีคนมาตั้งกระทู้ถามถึงว่า ทำไมเต๋า สโรชาถึงไม่ค่อยดังคะ
ทั้งที่ตอนนั้นก็มีคนผลักดัน เขาก็พอมีชื่อเสียงอยู่นะตอนเข้าวงการ มีคนผลักดันเป็นนางเอกอยู่พักนึง หน้านางไปซ้ำกะจอยและกบอ่าค่ะ ละครที่ปังมีนะคะ แต่บทนางไม่เด่น เช่น เงามรณะ แต่นางไปปังแวดวงหนังมากกว่า โดยเฉพาะแรงเป็นไฟละลายแค่เธอ ย้อนไป 13 ปี แม่เป็นคนบังคับให้เข้าวงการเหรอ ใช่ คือเป็นคนขี้อายมาก แล้วทำไมแม่ถึงคิดว่าการเข้าวงการถึงทำให้หาย นั่นสิ เขาก็ไม่ปรึกษาเลย เขาก็คิดว่าการเจอคนเยอะๆ การไปเผชิญโลกด้วยตัวเองจะแก้ตรงนี้ได้
ก็เลยนัดแคสติ้งโดยที่ไม่บอกเรา แม่เป็นซิงเกอร์มัมใช่ไหม ใช่ค่ะ เราจะอยู่กับยาย แม่ก็ไปทำงานนอกบ้าน พอได้ทำงานในวงการ ก็ต้องทำไปด้วยเรียนไปด้วย แล้วแม่ก็ตามตลอด ใช่ค่ะ ตอนนั้นพี่พจน์ อานนท์ เป็นผู้จัดการ แต่ว่าจะไม่มีตามเหมือนทุกวันนี้ เวลาไปไหนพี่พจน์ก็โทรศัพท์มาบอกตอนเช้าแล้วแม่ก็ไปรับ-ส่ง ซึ่งเราเป็นเด็กความคิดประหลาด คิดวนอยู่ในหัวบอกแม่ว่าไม่ต้องมาแล้ว เดี๋ยวหนูไปคนเดียว เพราะรู้สึกว่าถ้าแม่ยังอยู่ด้วยกันแบบนี้เราจะไม่ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมอื่น
ถามเรื่องละครหน่อย ตอนที่ผู้ใหญ่บอกว่าถ้าเธออยากอยู่ในวงการต่อไปเธอต้องเลิกเป็นนางเอก ใช่ค่ะ ตอนนั้นแบบเศร้ามาก ฉันจะไปจ่อยังไงดี ด้วยความที่ไม่รู้ของเด็ก เราก็คิดว่าเป็นนางเอกไม่ได้เราไม่มีอนาคตในวงการแล้ว ตอนนั้นก็หางานทำเป็นพีอาร์โน่นนี่ แต่ก็มีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาแต่ไม่ใช่นางเอกนะ ตอนแรกก็เศร้าหนักแต่ก็ลองทำดู ก็เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ตอนแต่งงาน แต่งเงียบมาก เพราะอะไร คือตอนแรกไม่อยากจัดงาน
แต่ว่าอยากจัดให้ยายกับแม่ก็เลยเอาเล็กที่สุดเท่าที่ทำได้ แขกในงานจะไม่เกิน 30 คน ตอนนั้นโดนงอนมาก เจ้าบ่าวคนนี้เป็นใคร แล้วไปเจอกันได้ยังไง เขาเป็นคนธรรมดานี่แหละ คุยกันเรื่องงานแล้วถูกใจกันก็เลยคบ แต่งมา 2 ปีแล้วแต่ทำไมไม่มีเบบี๋สักที ใช่ ก็คิดว่าอยากทำอะไรที่อยากทำก่อน เพราะมีอะไรหลายอย่างมาก ด้วยความที่เข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก มันเลยมีหลายอย่างที่อยากทำ พอตอนนี้มันเริ่มว่าง เราไม่อยากทิ้งฝันตรงนั้น เช่น การเรียนต่อ ยังไม่ได้กำกับอย่างที่อยากทำ
เพราะถ้ามีลูกแล้วทุกอย่างอาจจะต้องหยุด แต่คนก็มองว่าห่วงสวยหรือเปล่า ไม่ค่อยค่ะ อาจจะเป็นเรื่องหวงชีวิตอยู่ หวงความฝันของตัวเองอยู่ หวานกันยังไง ก็สัมผัสกันบ้าง เพราะว่าเหนื่อยมาก กลับบ้านไม่มีอะไรเลย ก่อนนอนก็จุ๊บกัน ก่อนออกจากบ้านก็บ๊ายบายกัน แล้วก็มาเจอกันอีกทีดึกเลย นอกจากปีใหม่นัดไปเที่ยวกันสักที ไม่ได้ผูกโยงติดกันมาก ต่างคนต่างใช้ชีวิต รู้สึกดีที่มีเพื่อน มีคนห่วงใยนะ