เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครไม่รู้จักรายการตลกชื่อดังอย่าง ‘รายการคดีเด็ด’ รายการเก่าแก่ที่ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2543 ทางช่อง 7 โดยรายการนี้เป็นการรวบรวมเรื่องราวบอกเล่า จากเจ้าพนักงาน และเรื่องสั้นเป็นจริง เน้นความตลกขบขัน หลังจากนั้นก็จะมีละครสั้นจากคำบอกเล่าแสดงให้เข้าใจโดยง่าย

ภายหลังในช่วงหลังของซีซั่นที่ 3 เป็นต้นไปได้เพิ่มเจ้าของเรื่องเป็นเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานของรัฐเข้ามาด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เริ่มมีการบันทึกภาพข่าวและภาพจากโทรศัพท์มือถือ และภาพบันทึกของนักข่าวและกล้องหน้ารถ เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ก่อนเล่าเรื่องผู้ดำเนินรายการจะพูดว่า เรื่องนี้เป็นภาพจริง ไม่ได้ถ่ายทำ และคนที่เห็นในภาพก็เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ตัวแสดง และตอนจบเรื่องรวมทั้งเรื่องต่อไปในหมวดภาพจริง คนจริง ก็จะพูดว่าอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นภาพจริง ไม่ได้ถ่ายทำ และคนที่เห็นในภาพก็เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ตัวแสดง ซึ่งผู้ที่พูดประโยคนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพิธีกรดำเนินรายการ ที่มีลีลาและน้ำเสียงเฉพาะตัว แถมยังมีลุคหน้านิ่ง เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ นั่นก็คือ ‘พิสิทธิ์ กิรติการกุล’ หรือ ‘หว่อง’ เรียกได้ว่าเป็นพิธีกรในตำนานเลยก็ว่าได้ และแม้เวลาผ่านไปนานสักแค่ไหน เขาก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

ชีวิตนอกจอเรียบง่าย ไม่ได้ติดหรูอย่างที่ใครหลายคนคิดและเพราะเอกลักษณ์ชัดเจน ทำให้พิธีกรและผู้ประกาศคนดัง ‘หว่อง พิสิทธิ์ กิรติการกุล’ เจ้าของวลีเด็ด “แหม ทำไปได้” ยังคงครองใจคนดูแม้อายุจะเลยวัยเกษียณมาถึง 7 ปีแล้วก็ตาม แถมยังมีหลายคน ๆ นำบุคคลิก ท่าทางมาเลียนแบบ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไร แต่กลับให้แง่คิดว่าหากจะโด่งดังท้ายที่สุดการหาตัวเองให้เจอ และเป็นตัวเองถึงจะประสบความสำเร็จอยู่ได้อย่างยาวนาน และถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้เราจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น ‘หว่อง พิสิทธิ์’ ผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์เหมือนสมัยก่อนแล้ว เชื่อว่าหลายคนยังจดจำลักษณะท่าทาง และคำพูดในตำนานของเจ้าตัวได้ รวมถึงน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์คุ้นหูชาวไทย ยากจะเลียนแบบ ก็ทำให้ ‘หว่อง พิสิทธิ์’ ยังเป็นพิธีกรในความทรงจำของใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบันนี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamtoday.com