เลิกเป็นนางเอก ผันตัวเป็นผู้ประกาศข่าว หมวย อริสรา หลังมีลูก
หากพูดถึงผู้ประกาศข่าวสาวที่มีบุคลิกเรียบร้อย พูดจานุ่มนวล แต่ฟังดูหนักแน่น น่าเชื่อถือ หลายคนต้องนึกถึง หมวย-อริสรา กำธรเจริญ หรือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อริสรา กำธรเจริญ หญิงสาวที่สร้างผลงานในวงการบันเทิงหลากหลายด้าน
ทั้งด้านการแสดง พิธีกร และผู้ประกาศข่าว ย้อนไปช่วงก่อนนั้น หมวย อริสรา มีลูกคนแรกแล้ว หลังแต่งงานกับสามีมานานถึง 15 ปี ในที่สุดก็ได้มีข่าวดี เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่สำหรับการเป็นคุณแม่มือใหม่ ทั้งนี้หมวย อริสราประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากและผ่านการทำมาแล้ว 10 ครั้ง ในเวลากว่า 15 ปี จนกระทั่งในที่สุดก็ได้มีลูกสมดังใจเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา คุ้นหน้า คุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะอยู่ในวงการมานานมากกว่า 20 ปีแล้ว สำหรับพิธีกรชื่อดัง หมวย ดร.อริสรา กำธรเจริญ
ซึ่งตอนนี้ได้ผันตัวมาเป็นพิธีและผู้ประกาศข่าวเต็มตัว ไม่รู้จะมีใครยังจำกันได้หรือเปล่าว่า หมวย ได้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวดหนุ่มสาวแพรว เมื่อปี 2539 และได้ตำแหน่งรองสาวแพรว และเป็นรุ่นเดียวกับนักแสดงชื่อดัง ปูเป้ รามาวดี หมวย ได้ขอย้อนวันวานด้วยการโพสต์ภาพหายากในสมัยที่ยังประกวด พร้อมระบุแคปชั่นว่า ย้อนวันวาน หนุ่มสาวแพรว 2539 ใครจำได้บ้างคะ รอยยิ้ม แววตา น่ารักมาก ๆ เลย หน้าแทบไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ ยังสวยเหมือนเมื่อก่อนเลยจริง ๆ
สมกับตำแหน่งที่ได้รับมาเลยน้าาา หลังจากที่หมวยได้เข้าสู่วงการด้วยการประกวดหนุ่มสาวแพรวเมื่อปี พ.ศ. 2539 และได้ตำแหน่งรองสาวแพรว ก็ได้มีผลงานถ่ายโฆษณา จนกระทั่งได้มีบทบาทการแสดงครั้งแรก จากละครซิทคอมเรื่อง ติวเตอร์มอ ในปีเดียวกัน ทางช่อง 9 โดยรับบทเป็น รรินทร์ และหลังจากนั้นก็ได้มีผลงานในวงการบันเทิงทั้งงานการแสดงละครโทรทัศน์และงานพิธีกรรายการโทรทัศน์เรื่อยมา ถ้าเราจะเป็นต้นแบบเรื่องอะไรได้บ้าง คิดว่าคงเป็นเรื่องความขยันและความอดทน
เราเชื่อว่าพอทำงานมาถึงจุดหนึ่ง ด้วยระบบต่างๆ มันจะฝึกให้ทุกคนเก่งอยู่แล้ว อย่างการเรียนปริญญาเอก กระบวนการตั้งแต่สอบเข้า หลักสูตร คอร์สเวิร์ก ถ้าผ่านกระบวนการพวกนั้นมา จุดหนึ่งทุกคนจะถูกเคี่ยวให้เก่งเท่ากัน แต่ทำไมบางคนทำสำเร็จ เราว่ามันอยู่ที่ความขยัน อดทน เหมือนกับงานอื่นๆ ที่งานมันจะเคี่ยวกรำให้ทุกคนเก่งเท่ากัน แต่คนขยันจะไปต่อ คือท้อได้นะ เหนื่อยได้ แต่ต้องทำต่ออย่างต่อเนื่อง แล้วหมั่นฝึกฝน อดทน เรียนรู้ตลอด
ทำงานมาหลายปีก็ยังต้องคอยหมั่นตรวจสอบตัวเอง เรียนรู้ข้อดีของคนที่เราเห็นรอบตัว แล้วทำให้ตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายถ้าจะมีใครเห็นเป็นต้นแบบก็น่ายินดี แต่ที่แน่ใจได้เลยคือเราจะภูมิใจกับตัวเอง โดย หมวย อริสรา เผยว่า จริงๆ ได้แรงบันดาลใจจากพี่ชายนะ เพราะพี่ชายเรียนวารสาร ห่างจากเรา 2 ปี เพราะฉะนั้นตั้งแต่เด็กเคยเห็นว่าพี่ชายเรียนคณะนี้ เห็นเขาต้องออกไปทำกิจกรรม มีถ่ายทำ เขียนบท หลายๆอย่างเราก็เลยเห็นว่ามันสนุก ก็เลยเลือกเรียนวารสาร
แต่ตอนเด็กๆความไฝ่ฝันของพี่คือ อยากเป็นครู สมัยเด็กเราไม่รู้หรอกว่าอาชีพนักสื่อสารมวลชนเป็นอย่างไร มันดูไกลตัวไป แต่พอยิ่งได้เรียนแล้ว เราก็ยิ่งชอบ เพราะว่างานของเรามันเป็นงานที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนมากเลยนะ