เปิดบ้าน เอก รังสิโรจน์ ไม่เคยลืมความลำบาก
เอก รังสิโรจน์ พระเอกชื่อดังที่ปัจจุบันได้ผันตัวเป็นผู้กำกับละครในเรื่อง หุบพญาเสือ โดยเอกได้เผยถึงชีวิตในอดีต “ยอมเดินทางไปและกลับ อยุธยา-กรุงเทพ ทุกวัน เพื่อจะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ ไม่ปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพัง เขาเล่าว่าในสมัยเด็กๆนั้น ตั้งแต่อายุ 15 ปี ก็มาเป็นเด็กวัด ที่วัดเสนาสนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา
อยู่จนเรียนจบอายุ 22-23 เลย เพราะตอนเด็กๆ บ้านอยู่ไกลที่ อ.บางบาล เดินทางไปกลับลำบาก พ่อแม่เลยพามาฝากไว้ที่นี่ ก็ต้องทำทุกอย่างเป็นเหมือนเด็กวัดทั่วๆ ไป เช้าต้องไปเดินตามพระบิณฑบาต ขนาดตอนเป็นวัยรุ่นอายุ 18 ปี เริ่มเล่นดนตรีในบาร์ แล้วก็ยังอยู่วัด กลับมาดึกตี 2-3 ยังไง 6 โมงเช้า ก็ต้องตื่นไปเดินตามพระบิณฑบาต” เอกมีหลักการวาง ตัวในวงการบันเทิงยังไง “ผมเป็นคนไม่ตั้งความหวังในชีวิตไว้สูงมาก แต่ตั้งใจในการทำงานสูงมาก ผมจะมองเรื่องงานมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ อย่างถ้าผมรับละครมาหนึ่งเรื่อง ผมจะถามว่าเล่นกับใคร บทเป็นอย่างไร ดูภาพรวมมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะงานทุกงานที่ผมตัดสินใจรับแล้ว ผมจะทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดและตั้งใจมาก ไม่ทำอะไรผ่านๆ ไป เพราะฉะนั้นในกองถ้าไม่เห็นผมท่องบทก็จะเห็นผมถ่ายภาพ มีอยู่แค่นั้นเลยครับ ผมไม่เคยทำงานแบบสุกเอาเผากิน ทำตัวให้เป็นมิตรกับแฟนละคร และเป็นมิตรกับนักข่าวให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม
ผมว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นในรูปแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ถ้าเราไม่มีคนดูละครเราก็ไม่ดัง หรือถ้าเราไม่มีนักข่าวเขียนข่าวเรา เราก็ไม่มีกระแส ผมมองว่าทุกอย่างต้องเอื้อซึ่งกันและกันครับ” จริงๆ เอกเป็นคนยังไง “ผมเป็นคนเรียบง่ายครับ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวา ชอบไปเดินตลาดขายของมือสอง ขายของเก่า ใช้ชีวิตปกติไปได้ทุกที่ครับ ผมไม่เคยวางตัวเองว่าเป็นดารา คุยได้กับทุกคน ผมมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้” ทุกวันนี้เอกพอใจกับจุดที่ยืนอยู่มั้ย “ทุกวันนี้ผมพอใจกับงานที่ผมทำอยู่มากครับ ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ยังเอ็นดูผมมาตั้งแต่ผมเข้าวงการใหม่ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ และให้ความไว้วางใจเรามอบหมายงานให้เราตลอด สำหรับงานด้านอื่นๆ ผมมองว่าให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าครับ ปัจจุบันขอทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุดก่อน เพราะผมว่าการแสดงมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะก็ค่อยๆ เก็บเกี่ยวไปเรื่อยๆ ครับ”
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamtoday.com