กว่าจะมีวันนี้ ดีเจพุฒ เป็นทั้งพนักงานร้านสุกี้ ฉีกตั๋วหนัง
พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน หรือ ดีเจพุฒ ที่ไขว่คว้าโอกาสจนมีทุกวันนี้ จากพนักงานร้านสุกี้-ฉีกตั๋วหนัง กว่าจะก้าวมาสู่ชีวิตการเป็นพระเอกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เริ่มแรก พุฒ มาจากครอบครัวชาวสวน ตอนนั้นอยู่ที่ราชบุรี ที่อำเภอดำเนินสะดวกครับ ก็ทำสวนมะม่วง สวนองุ่น สวนละมุด สวนชมพู่ แล้วก็ปลูกพืชล้มลุก มีหลายอย่างมาก
ชีวิตเราก็จะโตมากับการต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำสวนด้วย แล้วก็เรียนไปด้วย ความใฝ่ฝันอยากเป็นดีเจ ตอนนั้นยังไม่ฝันเลย ตอนนั้นเป็นเด็กน้อยอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีความฝันอะไรเลยนะ ได้มาประกวดวีเจของ GMM TV รายการโอไอซี ตอนนั้นเขาหาวีเจหน้าใหม่ ก็ลองเข้าเทสต์ดู ก็ได้ผ่านเข้ารอบมาเก็บตัว ไปเวิร์กช็อปแล้วก็ได้มาเป็น 8 คนสุดท้ายในรายการโอไอซีครับ พ่อแม่เป็นชาวสวน ชาวไร่ ตัวเองต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ไม่อยากรบกวนเงินพ่อแม่ เริ่มต้นด้วยการ สมัครพนักงานร้าน
ตอนนั้นร้านแรกที่สมัคร ร้านสุกี้ครับ คือ ตอนนั้นก็ลองสมัครพาร์ทไทม์ เดินไปแบบโง่ๆ เลย พี่ครับผมมาสมัครงานครับ แบบนี้เลยครับ คำแรกที่เขาว่ามา คือ ชั่วโมงละ 25 บาท ถ้าทำจานแตก ทำแก้วแตกก็หักตามราคา เราก็กลัวนะ ถ้าทำแตกขึ้นมา เราก็กลัวช็อต พาร์ทไทม์วันหนึ่ง ก็ไม่เกิน 8 ชั่วโมง เราก็ขอถอยมาก่อนดีกว่าแล้วก็ไปสมัครที่โรงหนัง ไปฉีกตั๋วหนังดีกว่า ได้ดูหนังฟรีด้วย ไม่ต้องทำอะไรแตกด้วย แต่พอไปสมัครจริงผู้จัดการ เขาก็อยากให้เราไปฉีกตั๋ว บ้านพุฒจุ๋ย แบบ Exclusive
ชมการออกแบบสุดหรู มูลค่ากว่า 60,000,000 บาท การออกแบบงานปรับปรุงบ้านที่ พุฒจุ๋ย ไว้อยู่เป็นเรือนหอ ปรับปรุงเพื่อให้ตรงกับการใช้สอย ไม่ใช่แค่ออกแบบเพื่อเป็นที่พักอาศัย แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สำหรับการขยายครอบครัว เพื่อรองรับการเติบโตของผู้อยู่อาศัย เก็บตังค์ซื้อบ้านข้างๆแล้วมารีโนเวต ทุบทำใหม่ถูกกว่าอีกเลยทุบใหม่ แต่อยากให้ภายนอกยังเหมือนเพื่อนบ้าน โจทย์ คือ พุฒ ต้องออกกำลังกาย จุ๋ย ต้องการครัวใหญ่ ห้องน้ำใหญ่เพราะตอนอยู่คอนโดชอบมีเรื่องกัน