อีฟ พุทธิดา เผยสิ่งติดค้างที่ อาต้อย เศรษฐา ยังไม่ได้ทำก่อนจากไป

อีฟ พุทธิดา เผยสิ่งติดค้างที่ อาต้อย เศรษฐา ยังไม่ได้ทำก่อนจากไป

อี๊ฟ พุทธธิดา ลูกสาวของ อาต้อย เศรษฐา ที่วันนี้ควง คุณแม่อาเปี๊ยก อรัญญา มาเปิดใจครั้งแรกหลังสูญเสียอาต้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนี้แม่เป็นยังไงบ้าง? แม่เปี๊ยก : ตอนนี้ในสภาวะของตัวเองก็ไม่ค่อยดีส่วนความรู้สึกในใจ เริ่มโอเคแล้วค่ะ เพราะว่าเรามีแรงบันดาลใจจากผู้ที่รักคุณต้อยมาก แล้วก็ผู้ที่ช่วยเหลือทั้งหลาย ทำให้เราดีขึ้นเยอะ คุณแม่มีความรู้สึกแว๊บคิดถึงคุณพ่อบ้างไหม?

แม่เปี๊ยก : ไม่ต้องแว๊บ มันคิดถึงอยู่ทุกวัน แต่เราต้องรับความเป็นจริง เราเข้าใจนะ เพราะมาป่านนี้แล้ว เราเข้าใจว่าเกิดแก่ เจ็บ จากไป มันเป็นยังไง อี๊ฟให้กำลังใจคุณแม่ยังไง? อี๊ฟ : แค่ดูแลกันเฉยๆ เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาอยู่แล้ว เราก็ไปดูแลในเริ่องสุขภาพมากกว่า แม่เปี๊ยก : เราก็ให้กำลังใจเขาโดยที่ทำตัวเราให้แข็งแรง ไม่ให้เขาเป็นกังวลเยอะ เขาก็หนักอยู่แล้ว อาเปี๊ยกเปิดคอนเสิร์ตอาต้อยดูตลอดเลย? : ใช่ๆ จากที่ไม่เคยได้ดูมาก่อน เราไม่ค่อยมีเวลามานั่งดูกันจริงๆ จังๆ

เพราะว่าแต่ละคอนเสิร์ตมันยาวมาก 3-4 ชั่วโมง แต่พอคุณพ่อเสียก็ดูตั้งแต่สวดเสร็จ กลับมาบ้านก็นั่งดูไป ทานข้าวไป ทานข้าวกับคุณพ่อด้วย เพราะว่าอยู่บ้านเรายังจัดสำหรับเหมือนเขาอยู่ เห็นว่าทำทุกอย่างเหมือนตอนที่อาต้อยยังอยู่? อะไรที่ทำได้ เราจะทำเหมือนเดิม เห็นว่ามีช่วงที่ดูแลคุณพ่อ มีช่วง 10 วันที่ทรมานใจอี๊ฟมากเลย? ใช่ค่ะ ในช่วงให้ยาครั้งแรกคุณพ่อก็ทรุดเหมือนกัน แต่เขาก็ดีขึ้น เราอยากเก็บช่วงเวลาไว้ แต่พ่อค่อยๆ ดีขึ้นนะ เราอยากให้เขาเห็นตรงนั้น แต่ในช่วงที่2 มันไม่ดีขึ้นดหมือนครั้งแรก

ตอนที่พ่อเป็นมากๆ เราแอบคิดไหวว่านี่จะเป็นโมเมนต์ที่เราต้องเสียพ่อไป? อี๊ฟ : ใช่ค่ะ มันเหมือนในหนังเลย จำภาพนั้นได้เลย มันเป็นช่วงกลางวันที่ถามว่าเขาจำอี๊ฟได้ไหม แล้วเขาตอบไม่ได้อี๊ฟเห็นเงาตัวเองสะท้อนกำแพงขาวๆ แดดมันส่องมาที่หน้าต่าง พ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ อี๊ฟนั่งอยู่ที่พื้น อี๊ฟกอดเขาแล้วเห็นเงาตัวเอง แล้วร้องไห้อยู่แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร ทำอะไร แว๊บนั้นอี๊ฟรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่สุดแล้ว ตี 2 เกิดอะไรขึ้น? อี๊ฟ : เลขาเขาโทรมาอธิบายว่า พ่อความดันตกตั้งแต่ช่วงเย็น (ตอนนั้นอยู่เกาะเสม็ด)

ก็ดูเหมือนจะกีขึ้นมาแป๊บนึง คอนหัวค่ำ 2-3 ทุ่มดูไม่มีอะไรแล้ว แต่พอสักเที่ยงคืนมันตกลงไปอีก ตอนตี 4 ใครโทรมา แล้วเขาพูดยังไง? อี๊ฟ : เลขาและผู้ดูแลเขาอยู่ด้วยกัน เขาร้องไห้ แล้วพูดว่า น่าจะไม่เกินชั่วโมงนี้ เขาบอกว่าเขาอยากให้อี๊ฟวีดิโอคุยกับพ่อ พอวีดิโอคอลแล้วเห็นพ่อ อี๊ฟบอกว่าพ่อได้ยินหนูไหม พยายามพูดกับเขา อี๊ฟอยู่ตรงนี้ แม่ต้น ก็อยู่ตรงนี้ ช่วงนั้นเราพยายามไม่ร้องไห้ แล้วมีความคิดอยู่หน่อยนึงว่าเราจะบอกเขาให้รอก่อน แต่เราไม่ได้บอกอี๊ฟเชื่อว่าถ้าบอกเขาก็รอ

แต่ใจเรารู้สึกว่าเราไม่อยากเห็นแก่ตัวขนาดนั้น เพราะดูเขาไม่โอเคแล้ว ตอนนั้นที่พูดไปท่านรับรู้ไหม? อี๊ฟ : คิดว่ารู้ แต่ว่าเขาตอบไม่ได้แล้ว เราก็บอกเขาว่าเรารักพ่อนะ อี๊ฟบอกว่าพ่อไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว อี๊ฟพยายามพูดกับเขาว่าถ้าเขาเหนื่อย พ่อไม่ต้องคิดอะไรเลยนะ ทำใจให้ว่างๆ อี๊ฟก็บอกให้เลขาเปิดบทสวดชินบัญชรคู่ไปด้วย แล้วอี๊ฟก็บอกว่าฟังเสียงพระไว้นะคะ ไม่ต้องคิดอะไรมากถ้าพ่อเหนื่อย พ่อก็แค่หลับ นอนพักไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว อี๊ฟกับแม่รักพ่อ เราทุกคนรักพ่อ

ไม่มีอะไรที่พ่อต้องเป็นห่วงหรือกังวลอีกแล้ว แล้วเลขาเขาก็พูดขึ้นมาว่าอาไม่ต้องห่วงมีบุญนะ ยังไงอี๊ฟก็ต้องเลี้ยงดีที่สุดอยู่แล้วไม่ต้องกังวลนะ เราพูดอยู่อย่างนี้สักพัก แล้วเราก็ค่อยๆ แผ่วลงแล้วเหมือนในหนังเลยเครื่องก็ดังตี้ด สิ่งที่ติดค้างอยู่ แล้วอาต้อยเสียไปก่อน คือเรื่องอะไร? อี๊ฟ : คุณพ่อเขาชอบทำบุญ เขามีโปรเจ็กต์ทำบุญเยอะ จริงๆ มีค้างอีกหลายอย่างเลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ