สาวนักเรียนนอกงง ได้โควตาฉีดไฟเซอร์แต่ได้ฉีดตัวอื่น
จากกรณีสาวนักเรียนนอกรายหนึ่ง ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ส่วนตัว ถึงเรื่องโควตาไฟเซอร์กลุ่มนักเรียนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ 150,000 โดส ที่ทางกรมควบคุม โ ร ค จัดสรรให้ แต่กลับได้ฉีดแอสตร้าแทน
ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อสอบถามทราบว่า สาวนักเรียนนอกรายนี้ กำลังจะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ สิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จึงได้ทำการลงทะเบียนฉีด วั ค ซี น ไฟเซอร์ในโควตาดังกล่าว ในวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับอีเมลล์ตอบกลับ ให้มารับการฉีด วั ค ซี น ไฟเซอร์ ในวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนเองจึงเดินทางไปรับ วั ค ซี น ในวันที่ตามนัดหมาย ย่านสาทร เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ บอกว่าเธอต้องได้รับ แอสตร้าเซเนก้า จึงเกิดความสับสนว่า เพราะเหตุใด สอบถามเจ้าหน้าที่ ให้คำตอบว่า เป็นไปตามเกณฑ์ของศูนย์ฉีดดังกล่าว
สาวรายดังกล่าวจึง โทรไปปรึกษาครอบครัว โดยทางครอบครัว ให้ยินยอมเนื่องจากจำเป็นต้องเดินทางสิ้นเดือนนี้ เธอจึงรับการฉีด
หลังจากรับ วั ค ซี น เธอสังเกตเห็นกลุ่มคนกำลังมีท่าทีไม่พอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ จึงเข้าไปสอบถามจึงพบว่า เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า ไฟเซอร์จะฉีดให้แก่ผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศที่รับรองแต่ไฟเซอร์เท่านั้น เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส แต่กลุ่มดังกล่าวไม่พอใจ เพราะเป็นโควตาที่ต้องได้ตามสิทธิจึงเกิดการทวงถามจนเจ้าหน้าที่ยอมให้กลุ่มดังกล่าว รับ วั ค ซี นไฟเซอร์ จึงเกิดคำถามว่า หากตนเองโวยวาย ตนเองคงได้ไฟเซอร์เช่นกัน สาวรายนี้จึงถามกลับว่า ไฟเซอร์ในส่วนที่เป็นชื่อของเธอ ส่วนนี้จะไปอยู่ที่ไหน ได้รับคำตอบว่า บุคลากรทางการแพทย์ เธอจึงสอบถามว่ามันน่าจะเป็นคนละโควต้ากันหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบกลับว่า เก็บให้นักเรียนคนอื่นในล็อตต่อไป
จากนั้นจึงถามเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ถึงเกณฑ์การคัดเลือกว่าใครควรได้ วั ค ซี น ของศูนย์ เนื่องจากในอีเมลล์แจ้งว่า ตนเองได้รับไฟเซอร์ ซึ่งมีการระบุอย่างชัดเจน ได้รับคำตอบว่าเป็นความผิดพลาดในการออกอีเมลล์ และจะไม่มีการระบุชนิด วั ค ซี น อีก ในรายอื่นๆที่จะได้โควตา วั ค ซี น และเมื่อทวงถามว่า ทำไมตนถึงได้แอสตร้าเซเนกร้า ทั้งที่ประเทศที่จะเดินทางไปไม่รับรองแอสตร้าเซเนกร้าที่ฉีดในไทย เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขอเช็กสถานทูตก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่
จากนั้นเธอจึงเดินทางออกจากศูนย์เนื่องจากคิดว่า ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะฉีดวัคซีนไปแล้ว หลังจากนั้นมีรปภ.วิ่งมาบอกเธอว่า เจ้าหน้าที่จะคุยด้วย และเจ้าหน้าที่ได้มาทำการขอโทษเพราะพบว่า เธอจะต้องได้รับ วั ค ซี น ไฟเซอร์จริง และประเทศดังกล่าวไม่รับรองอย่างที่หญิงสาวบอกไว้ และจะให้มาฉีดใหม่ แต่เนื่องจากไม่ทัน เพราะเธอต้องเดินทางสิ้นเดือน เจ้าหน้าที่จึงอ้างว่า ก็ไปบูสที่ประเทศนั้นแทนแล้วกัน
สาวนักเรียนนอกกล่าวว่า เธอไม่ได้ติดใจเรื่อง วั ค ซี น มากนัก และไม่ได้ต้องการเอาเรื่อง แต่เธอต้องการทราบว่า ไฟเซอร์ส่วนนั้นจะไปที่ไหน และจะสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่าไปที่ใดบ้าง และระบบการจัดการที่เปลี่ยนแปลงหน้างานแบบนี้ เป็นช่องโหว่ในการทุจริตการจัดสรรโควตา วั ค ซี น ได้หรือไม่ เนื่องจากเชื่อมั่นว่า มีคนน้อยมากที่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
แต่หลังจากทวิตข้อความดังกล่าวแล้ว พบว่า มีผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกับเธอไม่น้อย และเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นอีก และกลุ่มโควตาเหล่านี้จะต้องทำอย่างไร ต้องยอมรับชะตากรรมแบบเธอหรือไม่
เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamtoday