จากกรณี ไวท์ ณวัชร์ นักแสดงวัยรุ่น เปิดเผยเรื่องราวของพ่อและแม่ ถูกชายคู่กรณีทำร้า ย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางครอบครัวหนุ่มไวท์ ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ เพราะยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน มีแต่คู่กรณีที่พยายามขับรถจี้ท้าย ก่อนจะมาปาดหน้าแล้วลงมาท ำร้า ย และต่อมาทราบว่า ผู้ก่อเห ตุนั้นเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในขบวนการยุติธรรมด้วยนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า นายสุรศักดิ์ พ่อของไวท์ เปิดเผยหลังให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.บางกรวย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไปซื้อ KFC ในปั๊มและกำลังจะออกมา

ทางคู่กรณีก็หักหัวรถออกมาเลย เราทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้บีบแตรใส่กัน ไม่รู้สาเหตุมาจากเพราะอะไร พอมาถึงถนนใหญ่ก่อนลงอุโมงค์พระรามห้า คู่กรณีก็ขับมาจี้ท้ายรถ ตนเลยขับหนีและเบรกเพื่อให้เขานำหน้าไป

แต่เขาเบี่ยงขวามาตัดหน้าและเบรกเพื่อให้ชนท้ายและลงมาทำ ร้าย ร่า งกา ย รู้สึกเหมือนมีของแข็งโดนที่หัว จากนั้นได้ผลักคู่กรณีออกไป และได้มีการต่ อสู้กันเพื่อป้องกันตัว วันนี้ได้นำกล้องมาจากแท็กซี่มาเป็นหลักฐานให้ตำรวจ

ด้าน นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคู่กรณีมีหลายฐานความผิด มีทั้งเรื่องการข่ ม ขู่ การคุ กคาม การทำให้เสียทรัพย์ และการทำร้า ยร่า งกา ย ดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนจากผลทางการแพทย์ แต่มีข้อหาหนักอยู่ อาจจะได้ข้อหาใหญ่ด้วย

เท่าที่ทราบจากข่าวคือ ฝั่งคู่กรณีมีประวัติการรักษ าตัวทา งจิ ต แต่ตอนเกิดเห ตุยังมีสติสัมปชัญญะ และเคยเกิดเหตุลักษณะแบบนี้เมื่อหลายปีก่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง อยากให้ผู้ปกครองของคู่กรณีนำไปดูแลและรักษ าไม่ให้ก่อเหตุกับผู้อื่นอีก ส่วนเรื่องคดีทางครอบครัวไวท์จะดำเนินคดีถึงที่สุด

ไวท์ ณวัชร์กล่าวว่า ที่โพสต์ลงไอจีเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม เนื่องจากพ่อกับแม่ตนเป็นผู้ถูกกระทำ ส่วนเรื่องที่คู่กรณีเข้ามาคอมเมนต์นั้นเพิ่งมาเห็นในภายหลัง โดยเขาพิมพ์มาว่า เดี๋ยวเจอกันในศาล เป็นดาราอย่าโ ง่ แต่ตนไม่ตอบอะไรเพราะไม่ได้รู้จักกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.ปุ๋ย พนักงานขายโทรศัพท์ ซึ่งเคยเป็นผู้เสียหายถูกลูกผู้พิพากษาระดับสูงท ำร้า ย เล่าในรายการโหนกระแสว่า เมื่อ 3 ปีก่อน เคยถูกคู่กรณีทำร้า ยด้วยการต บ ห น้า หลังเข้ามาโวยวายจะเปลี่ยนสินค้า ขณะที่ตนติดพูดคุยกับลูกค้าคนอื่นอยู่ ครั้งนั้นคู่กรณีก็พูดทำนองว่าไม่กลัวกฎหมาย ต่อมาเขาก็มาขอโทษ ชดใช้ค่าเสียหายให้ 5 หมื่นบาท บอกว่าจะไม่ทำอีก ไม่คิดว่า 2-3 ปีต่อมาจะมาก่อเหตุอีก

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamtoday