นนทบุรีเริ่มรับไม่ไหว หลังขยะตกค้างกว่า 500 ตัน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ศูนย์เทคโนโลยีบริหารจัดการระบบกำจัดมูลฝอยติด เ ชื้ อ ภาคกลาง อบจ.นนทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ขยะติด เ ชื้ อ ตกค้างในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยจากการสำรวจพบว่าในพื้นที่โรงงานเตา เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ ของ อบจ.นนทบุรี มีขยะติด เ ชื้ อ หรือขยะถังแดง กองรวมกันเพื่อรอนำไปเผาทำลายเป็นจำนวนมาก
นายอุดร ระโหฐาน ผอ.กองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อบจ.นนทบุรี เปิดเผยถึงปัญหาขยะติด เ ชื้ อ ตกค้างเป็นจำนวนมากใน จ.นนทบุรีว่า เนื่องจากสถานการณ์ CV-19 ที่กำลัง แ พ ร่ ร ะ บ า ด อยู่ในตอนนี้ ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลสนามต่างๆ ที่ตั้งขึ้น สถานที่กักตัวเฝ้าดูอาการทั้งหลายทั้งโรงแรม โรงเรียน ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากทั้งจังหวัด ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของ อบจ.นนทบุรี ที่ต้องเข้าไปดำเนินการจัดเก็บขยะติด เ ชื้ อ เหล่านี้ทั้งหมดทั้งจังหวัด ยกเว้นในเขตพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรีและเทศบาลนครปากเกร็ด ที่ดำเนินการจัดเก็บขยะมาส่งที่ศูนย์กำจัดขยะด้วยตนเอง จากสภาวะดังกล่าวทำให้เกิดขยะติด เ ชื้ อ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกว่าปกติหลายเท่าตัว จนทำให้เตา เ ผ า ขยะของ อบจ.นนทบุรี ไม่สามารถทำงาน เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ ได้ทัน จึงเกิดสภาวะขยะติด เ ชื้ อ ตกค้างสะสมในพื้นที่กำจัดขยะเป็นจำนวนมา
ปัจจุบันสถานที่กำจัดมูลฝอยของ อบจ.นนทบุรี มีพื้นที่จัดเก็บขยะกว้างประมาณ 5 ไร่เศษ มีเตา เ ผ าขยะติด เ ชื้ อ จำนวน 2 เตา เผาขยะติด เ ชื้ อ ได้วันละประมาณ 16 ตัน เดินเครื่องตลอด 24 ชม.โดยกำจัดมูลฝอยติด เ ชื้ อ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งพื้นที่ในเขตและพื้นที่นอกเขตจังหวัดนนทบุรี แต่ปัจจุบันสถานการณ์ CV-19 ทำให้มีขยะติด เ ชื้ อ จำนวนมากถึงขึ้นกว่าหลายเท่าตัวคือประมาณ 30 ตันต่อวัน จากเดิมที่เคยจัดเก็บไม่เกิน 15 ตันต่อวัน ทำให้ห้องเก็บขยะของ อบจ.ไม่เพียงพอ จึงต้องจัดพื้นที่ลานด้านนอกไว้เพื่อสำรองจัดเก็บขยะติด เ ชื้ อ ในตอนนี้
ยอมรับว่าสถานการณ์เตา เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ ในตอนนี้ของ อบจ.นนทบุรี เกินขีดความสามารถที่จะรองรับหรือกำจัด เ ผ า ทำลายมูลฝอยติด เ ชื้ อ ได้ทันเวลา ทำให้ปัจจุบันมีขยะติด เ ชื้ อ ตกค้างมากกว่า 500 ตันแล้ว แม้จะเร่งดำเนินการ เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ 24 ชั่วโมงก็ตาม ก็ยังไม่สามารถแก้ไขขยะตกค้างได้ทัน ทำให้ทาง อบจ.นนทบุรีต้องทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอความอนุเคราะห์สนับสนุนการกำจัดมูลฝอยติด เ ชื้ อ ที่ตกค้างโดยใช้เตา เ ผ า อุตสาหกรรมเพื่อผลิตไฟฟ้าของภาคเอกชนเข้าช่วยเผาทำลาย ซึ่งอาจจำเป็นต้องแก้ไขข้อกฎหมายบางประการ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือในสถานการณ์เช่นนี้โดยไม่ผิดข้อบังคับ
นายอุดร กล่าวต่ออีกว่า ขยะติด เ ชื้ อ เหล่านี้ที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 500 ตัน และมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละวันเนื่องจากกำลังจะมีการเพิ่มศูนย์พักคอยขึ้นอีกหลายจุดใน จ.นนทบุรี ซึ่งเมื่อต้นทางมีปริมาณขยะติด เ ชื้ อ เพิ่มขึ้น ทำให้ปลายทางของขยะติด เ ชื้ อ เหล่านี้ก็จะมาล้นที่ปลายทางของศูนย์กำจัดขยะแห่งนี้แทน ก็เปรียบกับผู้ เ สี ย จาก CV-19 เมื่อ เ สี ย แล้วต้องส่งถึงวัดแล้ว เ ผ า เลย ขยะติด เ ชื้ อ ก็เช่นกันที่ต้องทำตามขั้นตอนนั้นคือรับมาถึงก็ต้อง เ ผ า เลยเช่นกัน แต่ปัญหาของเตา เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ แตกต่างกับวัดคือ วัดที่มีเตา เ ผ า CV-19สามารถช่วยกันกระจายไป เ ผ า กันได้ ไม่หนักที่เดียว แต่ที่เตา เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ ของ อบจ.นนทบุรี ในตอนนี้ต้องแบกภาระอยู่จุดเดียว ไม่สามารถกระจายไป เ ผ า ยังที่อื่นๆ ได้
จึงทำให้เกิดปัญหาขยะติด เ ชื้ อ สะสมตามมา ซึ่งปัญหาในตอนนี้ไม่ใช่เป็นที่ อบจ.นนทบุรี ทีเดียวแต่เป็นเหมือนกันหมดทั่วประเทศ ที่สถานการณ์เตา เ ผ า ขยะติด เ ชื้ อ มีขยะติดค้างเต็มไปหมดแล้วยิ่งกว่า วิ ก ฤ ต แล้ว จึงอยากให้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยในช่วงสถานการณ์ CV-19 นี้ด้วย การพึ่งพาเตาขยะผลิตไฟฟ้าของภาคเอกชนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของสถานการณ์ขยะติด เ ชื้ อ ตกค้างในตอนนี้
เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamtoday