คลังตอบแล้ว เหตุ เราชนะ เรียกเงินคืนทั้งทุนและกำไรหลักหมื่นถึงหลักล้าน
นายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงการคลัง โพสต์ชี้แจงกรณีเรียกคืนเงิน เราชนะ อยากให้ทุกคนเห็นใจการทำงานของหน่วยงานรัฐ ทุกอย่างมีระเบียบและกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ อย่ามองข้าราชการหรือหน่วยงานรัฐเป็นศัตรู ก่อนจะเข้าโครงการทุกท่านรู้ข้อกำหนดและกฎเกณฑ์อยู่แล้วว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาต้องยอมรับกติกา
ทั้งนี้ จากกรณีข่าวผู้ประกอบการที่กระทำเข้าข่ายผิดเกณฑ์ในโครงการเราชนะปรากฏอยู่บนโซเชียลมีเดีย กระทรวงการคลังได้ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ (โครงการฯ) เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่สุจริต โดยได้ตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายการกระทำฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ของโครงการฯ และได้ระงับสิทธิชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยผู้ประกอบการที่ระงับสิทธิชั่วคราวเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 และวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 รวม 2,751 ราย โดยได้พิจารณาตรวจสอบธุรกรรมแล้วจำนวน 2,739 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยยังไม่ได้จัดส่งเอกสารแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ประกอบการดังกล่าว สำหรับผู้ประกอบการที่ระงับสิทธิชั่วคราวเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 จำนวน 120 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผู้ประกอบการชี้แจงโต้แย้งมา
สำหรับกรณีข่าวของผู้ประกอบการที่ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดียในขณะนี้ และได้ยกหยิบยกภาพถ่ายเอกสารในการเรียกเงินของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมาเป็นตัวอย่างนั้น ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่ผู้ประกอบการรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ โดย โครงการฯ ได้รับการแจ้งเบาะแสและหลักฐาน ซึ่งเมื่อตรวจสอบธุรกรรมการรับชำระเงินแล้วพบว่ามีความผิดปกติ สอดคล้องตามหลักฐานและเบาะแสที่ได้รับแจ้ง จึงได้ระงับสิทธิการเข้าร่วมโครงการและเรียกชำระเงินคืนจากโครงการฯ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ผู้ประกอบการสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
กระทรวงการคลังได้เข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด และได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิการเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นต่อกรณีโครงการเราชนะดังกล่าว อาทิ ถ้าพูดกันตามกฎหมายยังไงเราก็ทำผิดข้อกฎเกณฑ์ที่เค้าตั้งเอาไว้ค่ะ ผิดที่เราสะเพร่าไม่อ่านกฎให้ดีก่อน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องมนุษยธรรม คือโครงการใจร้ายกับร้านค้าออนไลน์มากๆ ร้านค้าออนไลน์ก็ไม่ได้ใหญ่โตทุกคน ก็ยังจะเรียกเก็บเอากับ ปชช. ตาดำๆ จริงๆ เราว่าควรรวมตัวแล้วฟ้องโครงการกลับค่ะ , เงื่อนไขการสมัครระบุไว้แบบนี้นะคะ ต้องรับชำระสินค้าหรือบริการโดยตรงจากประชาชน นั่นหมายความการขายออนไลน์ทำไม่ได้ไม่ทราบตอนลงทะเบียนได้สอบถามทาวธนาคารหรืออ่านเงื่อนไขก่อนหรือเปล่า , เราขายออนไลน์เหมือนกัน ตอนแรกอยากสมัครมาก แต่พอคุยกับเจ้าหน้าที่เขาบอกร้านค้าออนไลน์เข้าร่วมไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ , เท่าๆที่อ่านดู เขาขายออนไลน์ แต่ใช้แอพปลอมแปลง gps location ค่ะ แต่เราไม่รู้ว่าการปลอมแปลง location ร้าน หรือการขายของออนไลน์อย่างเดียวโดยที่ไม่มีหน้าร้าน มันผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขโครงการไหม
เรียบลเรียงโดย ทีมงาน siamtoday