จากกรณีที่ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกมิจฉาชีพหลอกว่ามีโควตาลอตเตอรี่ รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เป็นเงินที่รวบรวมจากชาวบ้านและเพื่อนนักกีฬาและโค้ชทีมชาติ ที่อยากลงทุนขายลอตเตอรี่ แต่เมื่อจ่ายเงินไปกลับไม่ได้รับลอตเตอรี่ และถูกบ่ายเบี่ยงคืนเงิน แต่หลังจากที่ สมรักษ์ และ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร เดินทางไปเข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางยี่ปั๊วคนดังกล่าวได้โอนเงิน 1 ล้านบาทให้กับ สมรักษ์ และขอร้องไม่ให้แจ้งความ โดยทางยี่ปั๊วรายนี้ขอโอกาสและสัญญาว่าจะนำเงินที่ค้างอยู่อีก 10.7 ล้านบาทมาคืนให้ในวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่ง สมรักษ์ ก็ให้โอกาส

ล่าสุดวันที่ 11 มิ.ย.64 สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เดินทางมายังธนาคารทหารไทย สาขาเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเช็คขีดคร่อม 2 ใบ ใบละ 5 ล้านบาท 1 ใบ และ ใบละ 5.7 ล้านอีกหนึ่งใบ ซึ่งเป็นเช็คที่ยี่ปั๊วคนดังกล่าวสั่งจ่ายให้กับ สมรักษ์ เพื่อนำไปขึ้นเงินในวันที่ 11 มิ.ย.

โดย สมรักษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันนัดหมายที่ยี่ปั๊วนัดจ่ายเงินที่ยังค้างตนอยู่ 10.7 ล้านบาท กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ยี่ปั๊วได้ให้แมสเซนเจอร์นำเช็คธนาคารทหารไทยมาให้ตน 2 ฉบับ ฉบับละ 5 ล้านบาท และ 5.75 ล้านบาท ซึ่งระบุขึ้นเงินวันที่ 11 มิ.ย.64 โดยบอกกับตนว่า ก่อนจะนำเช็คไปขึ้นเงินให้รอทางเขาโทรแจ้งบอกเวลาเพื่อนำเงินเข้าก่อน และจะโทรมาแจ้งให้ตนทราบ ซึ่งในวันนี้ตนก็ยังคงให้โอกาสรอคอยที่เขาจะติดต่อแจ้งกลับมาตลอดทั้งวัน ตนก็แจ้งให้ชาวบ้านเจ้าของเงินทราบแล้วว่ายี่ปั๊วนัดจะจ่ายเงินคืนในวันนี้ ทุกคนก็รอคอยและโทรมาสอบถามตลอดทั้งวัน เหมือนตนเป็นความหวังของหมู่บ้าน

สมรักษ์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 16.30 น. ก่อนที่ธนาคารจะปิดทำการในเวลา 17.00 น. ตนจึงนำเช็คไปเข้าบัญชี เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ต้องนำเช็คมาขึ้นก่อนเวลา 14.00 น.ของวัน จากนั้นเมื่อเช็คสมบูรณ์ก็จะเดินบัญชีได้ในวันถัดไป ทำให้ตนต้องเสียเวลานำเช็ค 2 ใบนี้มาที่ธนาคารอีกครั้งในวันจันทร์และรอเงินเข้าบัญชีในวันอังคาร แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบบัญชีเช็คที่สั่งจ่ายแล้วพบว่าไม่มีเงินในบัญชี

ตนยอมรับว่าเครียดมากและเสียความรู้สึก ตนให้โอกาสมามากมายหลายครั้งแล้ว เพราะสงสารไม่อยากให้เขาติดคุก ครอบครัวเขาเดือดร้อน จึงให้โอกาสหาเงินมาคืน เพราะตนก็อยากได้เงินคืนมาเพื่อนำไปคืนชาวบ้านที่รอคอยความหวังจากตน แต่แล้วเขาก็ยังออกลูกบ่ายเบี่ยงยื้อเวลาไปมาอีก ซึ่งหลังจากนี้ตนจะปรึกษากับ ทนายรณรงค์ อีกครั้งว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายอย่างไรต่อไป ซึ่งหากเช็คที่สั่งจ่ายมาไม่มีเงิน ตนคงต้องแจ้งความดำเนินเพิ่มในความผิดคดีเช็คเด้งอีกข้อหา และหลังจากนี้ตนจะไม่ให้โอกาสเจรจาใดๆ อีก คงต้องดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamtoday