ม33 เรารักกัน คนละ 6,000 ยอดใช้จ่าย 3.9 หมื่นล้าน
วันที่ 7 มิถุนายน 2564 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานความคืบหน้ามาตรการด้านเศรษฐกิจที่ดำเนินการไปแล้ว หนึ่งในนั้นคือ โครงการ ม33เรารักกัน ซึ่งข้อมูลการใช้จ่ายโครงการ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้ประกันตนใช้เงิน 8,040,416 ราย ร้านค้าที่ให้บริการ 1,069,838 ร้าน รายการที่ใช้จ่าย 137,380,377 รายการ และยอดใช้จ่าย 39,317,208,704.55 บาท โดยมีรายละเอียดย่อย ดังนี้
โครงการเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินคนละ 6,000 บาท
คุณสมบัติกลุ่มเป้าหมาย
สัญชาติไทย
เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการฯ (15 ก.พ.64) หรือเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 (ถูกตัดสิทธิเราชนะ)
ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ
ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันทุกบัญชี เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
กรอบวงเงิน 48,841.4700 ล้านบาท
คิดเป็นวงเงิน (8,136×6,000) 48,831.7620 ล้านบาท
คงเหลือ 9.7080 ล้านบาท
ผู้ลงทะเบียน ณ วันที่ 21 ก.พ. – 7 มี.ค.64 จำนวนทั้งสิ้น 8,208,286 คน
ไม่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง 622,172 คน
ไม่ผ่านเงื่อนไขเงินฝากเกิน 500,000 บาท 168,679 คน
ผู้ผ่านการคัดกรองได้รับสิทธิรอบแรก 7,417,435 คน
ผู้ลงทะเบียนทบทวนสิทธิ์ผ่าน www.ม33เรารักกัน.com (วันที่ 15-28 มี.ค.64) 709,190 คน
ผู้ผ่านการทบทวนสิทธิ์ 662,307 คน
รวมผู้ได้รับสิทธิรอบแรก+ทบทวนสิทธิ (1+2) 8,079,742 คน
กดยืนยันตัวตน ผ่าน App “เป๋าตัง” 8,032,420 คน
กดเข้าร่วมโครงการ ม33เรารักกัน แล้ว 8,016,199 คน
ผู้ลงทะเบียนกรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ณ สปส. ทั่วประเทศ (วันที่ 15-28 มี.ค.64) 32,827 คน
ผู้ผ่านการลงทะเบียนกรณีไม่มีสมาร์ทโฟน 30,503 คน
ผู้ได้รับสิทธิโครงการ ระยะที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น (1)+(2)+(3) 8,110.245 คน
ผู้ยื่นทบทวนสิทธิ ระยะที่ 2 จำนวน 29,040 คน แต่ไม่ผ่านคัดกรองตามเงื่อนไขโครงการ เช่น มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท, ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ รวม 658 คน
ผู้ผ่านการทบทวนสิทธิ ระยะที่ 2 จำนวน 28,382 คน
ผู้ได้รับสิทธิโครงการรวมจำนวนทั้งสิ้น (4)+(5) 8,138,627 คน