เลื่อน เปิดเทอม อีกรอบ
วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่กระจายของ CV-19 (ศปก.ศบค.) ได้รับทราบให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 1 มิ.ย. ออกไปอีกโดยเลื่อนเป็นวันที่ 14 มิ.ย. 2564 ตามที่ ศธ.เสนอ
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของ CV-19 ระลอกใหม่ทั่วประเทศ มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไป เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไม่ต้องเสี่ย งกับการติด CV-19 และเพื่อให้มีระยะเวลารับการฉี ดวั คซี นของครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองรับการย้ายสถานศึกษาของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ การเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ดังกล่าวหากมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง และพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม ประสงค์จะดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป
ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้น ดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop COVID Plus ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มี 44 ข้อโดยต้องผ่านทุกข้อ และต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโร คติดต่อจังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนวันที่ 14 มิ.ย. 2564
ทั้งนี้ ล่าสุด ศบค.ได้ผ่อนคลายมาตรการการใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามระดับสถานการณ์ของพื้นที่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ยังเปิดเรียนไม่ได้ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง มี 17 จังหวัด
ได้แก่ กาญจนบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ประจวบคีรีขันธ์, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี, ยะลา, ระนอง, ระยอง, ราชบุรี, สมุทรสาคร, สงขลา และ สุราษฎร์ธานี ให้ใช้อาคารสถานที่ฯ เปิดเรียนได้ โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโร คติดต่อจังหวัด ส่วนที่เหลือ 56 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม เปิดเรียนได้ตามมาตรการ ศบค.
ขอให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พิจารณารูปแบบการเรียนการสอน โดยยึดหลักความปลอดภัยสูงสุดของเด็ก ครู ผู้ปกครองเป็นที่ตั้ง นักเรียนทุกคนต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ ไม่บังคับว่าเด็กทุกคนในโรงเรียนเดียวกันต้องเรียนเหมือนกัน การตัดสินใจใช้รูปแบบใดในการจัดการเรียนการสอน
รวมถึงการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ ขออนุญาตกับคณะกรรมการโร คติดต่อจังหวัดให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รมว.ศึกษาธิการ กล่าว