ติ๊ก แฉไม่ไว้หน้า หนุ่ม ศรราม

ติ๊ก แฉไม่ไว้หน้า หนุ่ม ศรราม

เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ชีวิตพลิกผันก็ไม่ผิดสำหรับสาว ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ หรือ กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ อดีตภรรยาพระเอกอมตะ หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ที่ทั้งคู่นั้นมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกสาว 1 คน ชื่อน้องวีจิ เทพพิทักษ์

ต่อมาหลังจากที่ สาวติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้จดทะเบียนหย่ากับ หนุ่ม ศรราม เธอนั้นก็ได้ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว โดยการทำอาชีพที่เธอถนัดนั่นก็คือ สตั๊นแมน เเละ รับงานพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ เพื่อ หาเงินใช้หนี้จำนวนมหาศาลที่เธอสร้างขึ้นมา จนชีวิตของเธอตอนนี้ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ

เเละต้องบอกว่ากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อ สาวติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ โพสต์ถึงลูกสาว น้องวีจิ หลังอายุ2ขวบเเล้ว เเต่กลับมีพัฒนาการช้า โดยเธอนั้นได้โพสต์ระบุข้อความว่า

10เดือนที่ผ่านมาไม่มีการพัฒนาขึ้นจากที่แม่เคยสอนนู๋..สักอย่างลูกเอ๋ย..เท่าที่แม่เฝ้ามองลูกอยู่ กลับมาสู่อ้อมแขนแม่ได้แล้วลูกเอ๋ย แม่สอนลูกมาเป็นทุกอย่างแต่ละอย่างเริ่มหายไปไหน นี่10เดือนแล้ว แม่คงยอมไม่ได้แล้วลูก..WHY..???? ทำไมมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาถึง20ปี

ช่วยบอกแม่ทีสิค่ะว่าทำไมถึงพัฒนาช้ากว่าที่แม่จ๋าเลี้ยงวีจิมาไม่กี่ปีค่ะ #แม่ก็คือแม่

ความคิดเห็นชาวโซเชียล

ความคิดเห็นชาวโซเชียล

เเละล่าสุด สาวติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ร่ำไห้ประกาศทวงลูกคืนกลางไลฟ์สด หลังอดีตสามี หนุ่ม ศรราม เลี้ยงลูกสาว น้องวีจิ เองจนพัฒนาการช้า โดยในไลฟ์ สาวติ๊ก ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอกลัวมาตลอด ต่อไปนี้เธอนั้นจะไม่กลัวอะไรเเล้ว ตอนนี้ต้องการลูก อย่างน้อยเรามาช่วยกันเลี้ยง ที่ผ่านมาตั้งแต่ติ๊กออกจากบ้านมา ขอถามจริงๆเคยเลี้ยงลูกเองไหม เลี้ยงเวลาไหน

ทุกวันนี้ตัวติ๊กเลิกพ นั นเเล้ว ไม่ได้ ดื่ มเ ห ล้ า กล้ายอมรับในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่อาย เเล้วตัวคุณกล้าทำอะไรผิด เคยกล้าพูดหรือป่าว ทุกวันนี้ฉันมีงาน ฉันมีเงิน มีที่อยู่ ทำไมฉันจะเลี้ยงลูกเองไม่ได้

ใจกล้าพอไหมคืนลูกสู่อกแม่เขา เพราะเหตุผลที่กลัวหรือเพราะข้ออ้าง เลิกโทษดิน ฟ้า อากาศ คน สัตว์ สิ่งของได้แล้วหันมาจริงจังเพื่อลูกได้แล้ว เที่ยวทะเล ต่างจังหวัด พาลูกออกนอกบ้านไปร้านอาหารได้ตั้งหลายที่หลายครั้ง เกือบทุกอาทิตย์ที่ผ่านมา ใช้ชีวิตสนุกสนานมากพอแล้วหันมาเมตตากับลูก-แม่เขาบ้างเถอะนะคะ ความอดทนของคนมีจีดจำกัด คงไม่รอให้พ่อป่วยตายก่อนได้เจอหลาน กราบขอความเห็นใจในสิ่งที่ขอร้องนะคะ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ