นานๆจะเห็นควงคู่เปิดใจด้วยกัน ป๋อ ณัฐวุฒิ กับ เอ๋ พรทิพย์ มาเผยเรื่องราวครอบครัวในรายการ คุยแซ่บShow โดยเฉพาะความคลั่งรักภรรยาของป๋อ โดย เอ๋ เผยว่า เมื่อก่อนจนถึงมีลูกคนโตแล้ว ไม่มีหึงไม่มีตามไม่มีอะไรเลย พักหลังๆไม่รู้สามีไปกินอะไรมามีตาม อยู่ไหน ทำไมต้องไป ไม่ไปได้ไหม ทำไปต้องไป

ก่อนจะมาคลั่งรักหนักถามถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ทะเลาะกันหนักโดยไม่มีใครรู้จนถึงขั้นหย่ากัน ป๋อ กล่าวว่า ตอนนั้นหนัก ตอนภูดิศ 1-2 ขวบ เหมือนเราได้กลับมาเป็นตัวเอง เลิกเห่อลูกเล็กๆแล้ว อาการเหมือนเราเริ่มเกลียดกัน พูดไม่ถูกหูกัน จนถึงวันหนึ่งเราถึงขั้นบอกเอ๋ พี่รู้นะว่าเอ๋ก็เกลียดพี่ มันอาจจะมีมุมนี้ที่คนเราไม่ได้รักกัน 100 เปอร์เซ็นต์

เอ๋ กล่าวว่า คนที่ทะเลาะกันสายตาก็จะไม่เป็นมิตร แต่เขาจะคิดเองว่าเอ๋กำลังเกลียดพี่อยู่ใช่ไหม เอ๋ไม่ได้พูดออกมา เอ๋พูดในใจว่า เออ

ป๋อ ย้อนช่วงเวลาสำคัญอีกว่า เรารู้ตอนนั้นไปต่อไม่ได้ ไม่รู้จะจบยังไง เหมือนยิ่งพูดยิ่งแย่ ยิ่งพยายามเคลียร์ยิ่งไม่ได้ คาราคาซังไปเรื่อย เรื่องที่ทะเลาะจะคล้ายๆเดิม มีเรื่องใหม่มาเรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ มาสุมๆจนสงสัยหย่าหว่ะ ดูเหมือนจะไปไม่รอด แต่สิ่งหนึ่งคือนึกถึงลูก จนบอกเอ๋ว่าเห็นไหมคนจะเลิกกันตอนลูก 1-2 ขวบทั้งนั้นไปสังเกตเพื่อนๆเรา คนในวงการ นอกวงการ ไม่รู้เป็นยังไง กลับมามีความต้องการของตัวเอง ต่างคนต่างเป็นตัวเอง เราลองอีกสักนิดไหมเอ๋ ไปหาพระดู เล่นของกันเลย เผื่อจิตใจจะดีขึ้น

ถามว่าถึงขั้นแยกห้องนอน เอ๋ เล่าว่า ตอนที่พี่ป๋ออารมณ์ไม่ดี เขาจะขึ้นเร็วและแรง เขาจะรู้สึกว่าไม่อยากเห็นหน้าเรา เราก็ไม่อยากเห็นหน้าเขา เขาให้เราไปนอนกับลูก เขาก็ไปนอนอีกห้องหนึ่ง เรื่องที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องจุกจิก อาจะเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยซ้ำ เอ๋เลี้ยงลูกเองทั้งวันก็เหนื่อยลูกก็ซน เรารู้สึกทำไมเขาไม่เข้าใจเรา ทำไมเขาต้องมีความต้องการอะไรเล็กๆน้อยๆ อย่างซื้ออาหารมาให้เขา ก็ต้องการให้เราแกะให้ แม่บ้านแกะให้ไม่ได้

ป๋อ กล่าวว่า ก็แค่รู้สึกทำไมใส่ใจลูกแล้วไม่ใส่ใจเราเลย เราเถียงเก่ง ตอนแรกเถียงด้วยเหตุผล พอเหตุผลเราเริ่มไม่ชนะ เราเริ่มใช้ตรรกะวิชาการมารเราไม่ต้องเหตุผลแล้ว เอาตรงนี้ให้ชนะก่อน เราเถียงชนะทุกครั้ง จนเอ๋มาไม้ตายว่า เถียงยังไงก็ไม่ชนะ เขาทำนิ่ง ผมก็ยิ่งร้อน ยิ่งไม่เถียงเรายิ่งปรี๊ด เขาไม่สน เรายิ่งคลุ้มคลั่ง มันจะเป็นบ้าอยู่คนเดียว

เรื่องนี้เป็นเรื่องในบ้านที่เราไม่ค่อยพูดให้คนอื่นฟังนะ คนอื่นอาจจะบอกดูในไอจีไม่เห็นเป็นเลย จริงๆแล้วชีวิตในบ้านมันยากเหมือนกัน ทุกครอบครัวมีทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยากในเวลาเดียวกัน

สุดท้ายไปปรึกษาพระ ป๋อ กล่าวว่า ผมมีพระอาจารย์ในการดำเนินชีวิตเหมือนเป็นไกด์ไลน์ บางครั้งเราไหว้พระเราก็สบายใจ การที่ถ่ายทอดคุยกับคนกลางพระอาจารย์ที่เรานับถือ คนกลางจะช่วย ผมปรึกษาแล้วท่านก็บอกว่าก็ไปหย่า ทะเลาะก็ไปหย่าเลย อีก 6 เดือนค่อยมาแต่งใหม่

มันต้องเป็นเรื่องแก้เคล็ด ไสยศาสตร์ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเป็นกุศโลบายของท่าน พอให้เราไปอยู่จุดที่หย่ากันจริงๆ ผมกับเอ๋ก็ปรึกษากันว่าลองไหม ก็ไปถึงตรงนั้นจริงๆ ตอนที่เราเซ็น เกิดความรู้สึกบางอย่างเหมือนกัน ผมเกิดความกลัว