เรียกได้ว่า โลดแล่นในวงการบันเทิงมายาวนานจากนางเอกสาวขวัญใจแฟนๆสู่ตำแหน่งคุณแม่ลูกหนึ่งที่หุ่นเป๊ะหน้าสวยไม่มีเปลี่ยนสำหรับ น้ำฝน กุลณัฐ ที่ ณ วันนี้ ได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและความรักที่เต็มเปี่ยม แต่กว่าจะมาเจอรักแท้ที่ลงตัวนั้น สาวน้ำฝนก็ได้บทเรียนและรู้เรียนรู้กับคำว่า รักที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลยมากมาย ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเล่าเรื่องนี้ผ่านรายการ Club Friday Show ให้ฟังแบบจัดเต็ม

น้ำฝน เผยว่า ฝนเคยมีความรักกับคนในวงการมาก่อนกับความสัมพันธ์ครั้งนั้นไม่มีใครรู้ เพราะเป็นพระเอกในฝันของเพื่อนที่อาศัยยืมมือเราให้ไปชอบ ก็เป็นรักแรกก็นานอยู่ 7-8 เดือน ก็เลิกกัน ถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็เพราะว่าเขามีอีกคนหนึ่งอยู่ (หัวเราะ) และความรักก็กลับเข้ามาสู่คนในวงการอีกครั้งน้องเขาเป็นเด็กใหม่ เขาเพิ่งเข้ามาในวงการความที่เราสองคนคบกันแล้วเขาก็ดังมาก ที่เราเลิกกันเป็นวันที่เหมือนแบบเขามาพูดกับเราว่า เลิกกันเถอะฝน แล้วเราก็เฮ้ยสองสามวันเขาก็โทรฯ กลับมาร้องไห้ ร้องไห้เหมือนเด็กเลย แล้วเขาก็บอกว่าฉันรู้ว่าในอนาคตฉันจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันอยู่ไม่ได้แล้ว และนี่ก็คืออีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยเล่าที่ไหน ด้วยความที่เราอยากได้เขากลับมามาก เราก็ไปหาหมอดู หมอไปปลุกเสกมะนาวมาให้ลูกหนึ่ง (หัวเราะ) แล้วเขาบอกว่าตอนสัมภาษณ์ให้กำอันนี้ไว้นะแล้วนักข่าวก็ถามว่าได้ข่าวว่าทั้งคู่จะแต่งงานแล้วผู้ชายก็เป็นแบบเราเลิกกันแล้ว ตอนนั้นบีบมะนาวจะเป็นน้ำอยู่แล้ว มะนาวไม่ช่วยอะไร

จริงๆ เรื่องรักนอกวงการก็มีแล้ว ในวงการก็มีแล้ว เราก็เลยแบบไม่เอาแล้วดีกว่า ออกนอกประเทศดีกว่า คือ ไม่เอาผู้ชายไทยแล้ว เราเจอเขาตอนแรกคือเราไม่ชอบเลยเพราะว่าเขาเมามาก แล้วมาถามเราว่าไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกันไหม เราก็แบบทำไมผู้ชายคนนี้เป็นแบบนี้ คนนี้ไม่ไหว แล้วสิ่งที่เรากังวลคือ เขาจะมีภรรยาอยู่แล้วหรือเปล่า เรื่องแม่อยากให้แต่งงานมาตลอดเราทะเลาะกับเขาแรงมาก (ร้องไห้) ทำไมแม่พูดเรื่องนี้ด้วย ฝนเบื่อมากเพราะเรารู้ว่าแม่พูดกับ จอร์ดอน ไม่ได้ แม่อยากจะให้เขาแต่งงาน แม่ก็ไปพูดกับเขาเองแล้วกัน เราก็ประชดแหละ แล้วแม่ก็เขียนจดหมายให้เราไปหาคนแปลให้เขาหน่อย พอวันที่แม่ไม่สบาย คือ มันเลวร้ายมากเช้าขึ้นมาแม่ไม่สบายพูดไม่ได้ พอเห็นแม่เริ่มอาการดีขึ้นฝนเลยหันไปถามเขาว่า เธอคิดจะแต่งงานกับฉันไหม ฉันอยากให้แม่ไปงานแต่งงานฉัน (ร้องไห้)แล้วมันมีเรื่องเศร้าอีกอันหนึ่งที่แบบตอนนี้ ทาเรีย เขาโตแล้วสามขวบครึ่ง เราก็คุยเล่นกับเขาว่า ทาเรีย ถ้าหม่ามี้แก่ ทาเรีย จะดูแลหม่ามี้ไหม ทาเรีย เขาก็บอกว่าไม่อยากให้หม่ามี้แก่ เราก็ถามเขาว่าทำไม (ร้องไห้) ทาเรีย กลัวหม่ามี้พูดไม่ได้