จากกรณีตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าควบคุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ไปสอบคำให้การ ที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กรณีการก่อสร้างรูปปั้นองค์พญานาครุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 27 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง ทำการสอบปากคำและบันทึกคำให้การของนายไชย์พล วิภา ในกรณีก่อสร้างรูปปั้นองค์พญานาคในเขตป่าสงวน หลังถูกคุมตัวมาที่ สภ.กกตูม ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา ก่อนจะแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 21.30 น. ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้แจ้ง 3 ข้อหา ที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวน ซึ่งนายไชย์พล ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นประกันตัวโดยใช้เงินสด 1 แสนบาท

ก่อนเดินทางกลับ นายไชย์พล พร้อมด้วยทนายความ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และใช้เงินสดประกันตัวออกไป จำนวน 100,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ นายไชย์พล ยืนยันว่า เป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินบริจาค

โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาลุงพลดังนี้

1. กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่าไม้ หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น และมาตรา 55 ฐานครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 54 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นแผ้งถางป่า และกระทำผิด

2. กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติ

สำหรับที่ดินบริเวณที่มีการสร้างพญานาค เป็นที่ดินที่นายไชย์พลอ้างว่าซื้อต่อมาจากชาวบ้านกกกอก เมื่อปี 2557 ในราคา 150,000 บาท โดยเป็นการซื้อขายมือเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิครอบครอง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนติดกับลำห้วยบุง ที่แต่เดิมชาวบ้านจะออกหาปลาในช่วงฤดูน้ำหลาก แต่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายไชย์พลกลับนำที่ดินตรงนี้ไปก่อสร้างพญานาค ความยาว 44 เมตร สูง 8 เมตร ซึ่งถือเป็นการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ที่กรมป่าไม้อนุโลมให้พื้นที่บ้านกกกอก สามารถอยู่อาศัยและทำการเกษตร

ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 2564 นี้เวลา 11.00 น. นายไชย์พล พร้อมด้วยทนายความ จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมดต่อสื่อมวลชน