จา พนม จากสตั๊นท์ฝ่าฟันสู่ดาราฮอลลีวู้ด

จา พนม จากสตั๊นท์ฝ่าฟันสู่ดาราฮอลลีวู้ด

จา พนม ยีรัมย์ หรือ โทนี่จา เจ้าของวลีเด็ด ช้างกูอยู่ไหน แต่วันนี้ไม่ต้องตามหาช้างแล้ว เพราะเขาได้นำความเป็นไทยผ่านการแสดง มาร์เชียลอาร์ต หรือศิลปะการต่อสู้ อย่างแม่ไม้มวยไทย ไปประกาศให้โลกฮอลลีวูดรับรู้ว่าคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกกับบทบาทของการเป็นนักแสดงนำครั้งแรกในเรื่อง มอนสเตอร์ฮันเตอร์ พร้อมประกบนักแสดงสาวมากฝีมือ มิลล่า โจโววิช โดยนักแสดงหนุ่มโกอินเตอร์เผยพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่า ขอบคุณตัวเองที่ไม่ละทิ้งความฝันในวัยเด็ก ถึงแม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรคก็ตาม พร้อมยกมือท่วมหัวได้ดีทุกวันนี้เพราะ ในหลวง ร.๙

ช่วงที่ดังมากๆพีคสุดจากหนังต้มยำกุ้งเหมือนหาตัวตนไม่เจอเพราะหายหน้าไปไหนถูกมองว่าติสต์ต่างๆนานา จา พนม เผยว่าช่วงวิบาก ทุกคนมีช่วงวิบาก กระแสสังคมบอกว่าเราหายไปไหน เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เก็บเกี่ยวพลัง พลังสมาธิที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า

ช่วงหลังต้มยำกุ้งดังจนเข้าตา ผู้กำกับฮอลลีวู้ด ดึงไปเล่นหนังเรื่องแรก Fast & Furious 7 และ monster hunter ช่วงจากต้มยำกุ้งไปฮอลลีวู้ดช่วงนั้นหายไปไหน จา เผยว่า เป็นช่วงเตรียมตัวไปฮอลลีวู้ด ช่วงตัดสินใจ เราไปหาประสบการณ์ที่ฮอลลีวู้ดเปิดให้เรา แต่เราไม่มีโอกาสได้ไปตรงนั้น โชคดีได้เจอผู้จัดการ คือ ไมค์ มาดูแลแนะนำเอเยนต์ที่ฮอลลีวู้ด บอกว่าด้วยความสามารถศิลปะการต่อสู้ของเราน่าจะมาอยู่ฮอลลีวู้ด

ครอบครัวก็ซัพพอร์ต ผมออกมาจากบ้านกระเป๋าเป้ใบเดียวไปตามหาความฝัน ตอนนั้นคิดหลายอย่าง โฟกัสไม่มี จนมารู้จักสมาธิ เราโฟกัสพุทโธ ค่อยๆเขี่ยทุกอย่างทีละนิดว่าความต้องการและเป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร ไปถึงเมืองนอกต้องทำให้เอเยนต์ โปรดิวเซอร์เชื่อ ไปทุกสตูดิโอทุกค่าย ไปโชว์ศิลปะมวยไทย โปรไฟล์ของเราแบบดิบๆ เราได้ใจเขา เขาเห็นแววตาเรา ทุกค่ายชอบ

ถามว่าตอนนั้นมีคนไทยบางส่วนเม้าธ์ว่า จา พนม เพี้ยนไปแล้ว จา พนม ตอบทันทีผมรู้ตัวดีว่าไม่เพี้ยน ผมไปอ่านๆดูเออเราเพี้ยนจริงหรือเปล่า ไม่นะเราก็สติดีนะ

ถามว่าเหมือนตอนนั้นกลัวที่จะมาถึงจุดนี้แต่ตัดความกลัวทุกอย่างออกไปหมดมุ่งไปที่เป้าหมายอย่างเดียวเลย จา ยอมรับ ความกล้ากับความกลัวของคู่กัน เราตัดความกลัว แล้วกล้าที่จะไปครั้งหนึ่งในชีวิต วันนั้นเราต้องทิ้งอะไรบ้าง จา เผยว่าไม่ได้ตัดอะไรเลย เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนของเราแล้วคนรอบข้างเข้าใจเรา เราเข้าใจตัวเองก่อนว่าเรามีเป้าหมายอะไร แล้วเราทำเพื่ออะไร ทำเพื่อประเทศ มาจากเมืองไทย ใช้ภาษาไทย ที่โน่นเขายอมรับให้เกียรติเรา เราไปเราคิดถูก ต้องกล้าคิด

ถามว่าภูมิใจแค่ไหนเห็นตัวเองในหนังฮอลลีวู้ดล่าสุด “monster hunter” ที่เจ้าตัวแสดงด้วยกำลังจะฉายในไทย รู้สึกอย่างไร เจ้าตัวเผย ภูมิใจ ที่สุดเหมือนเราไปปักธงเราทำได้ คนไทยก็ทำได้ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ต่อไปปูพรมนะ

การสื่อสารใช้ภาษาไทยบ้างแล้วก็ไปเรียนคลาสภาษาประมาณเดือนหนึ่ง เรียนภาษาภาพยนตร์ พร้อมพูดถึงหนังเรื่องใหม่ Monster Hunter ที่เป็นการหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เราสามารถครีเอตเอาวัฒนธรรมไทยของเราใส่ไปได้ ผู้กำกับเปิดมาก มีทั้งบทสวดไทย ท่ามวยไทย กระบี่กระบองไทย พอรู้ว่าหนังมาจากเกมเราก็ศึกษาลองเล่นเกม แล้วยังประกบกับ มิลลา โยโววิช และนักแสดงฮอลลีวู้ดอีกมากมาย

เป็นตัวนำในเรื่อง สูงสุดในชีวิต เป้าหมายที่อยากทำ เรามาถึงจุดนี้ เราปักธงแล้ว ร่วมกับนักแสดงบู๊โลก กับ มิลลา เขาก็เปิดรับเราไปร่วมดินเนอร์กับครอบครัวกับลูกเขา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ