เสื้อเหลืองโห่ไล่ ธนาธร พร้อมเปิดเพลงหนักแผ่นดิน
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 63 เวลา 10.00 น. ที่สน.ทุ่งสองห้อง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัวตามหมายเรียกของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในคดีที่ กกต. แจ้งความให้ดำเนินคดีนายธนาธร ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี2561 มาตรา 151
กรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ทางสน.ทุ่งสองห้อง ได้มีการเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร โดยมี พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบก.น.2 รรท.ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง ควบคุม และดูแลความเรียบร้อย
ต่อมามีมวลชนเสื้อเหลือง ประมาณ 30 คนเดินทางมาชูป้ายขับไล่ นายธนาธร พร้อมเปิดเพลงหนักแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ให้ประเชิญหน้ากัน ทั้งนี้มีหญิงรายหนึ่ง ระบุว่า ทีมงานคณะก้าวหน้า จ.นนทบุรี ที่มารอต้อนรับนายธนาธร มีวิทยุสีดำและสีแดง พร้อมระบุว่ามีใบอนุญาตพกพาหรือไม่ ก่อนจะเรียกร้องให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ จากนั้นพล.ต.ต.พัฒนา จึงเชิญให้ไปคุยที่ห้องป้องกันปราบปราม สน.ทุ่งสองห้อง
ต่อมาเวลา 10.30 น. มีรายงานข่าวว่าทางนายธนาธร จะเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาทที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) แทนเพื่อหลีกเลี่ยงกระเผชิญหน้ากัน เมื่อนายธนาธร เดินทางมาถึง มีกลุ่มผู้สนับสนุนกว่า 10 เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมนำเค้กมาเตรียมอวยพรวันเกิดให้นายธนาธร
นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้มารายงานตัวตามหมายเรียกในคดีที่ กกต.แจ้งความไว้ โดยจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ตอนนี้ยังมีกำลังใจดี ไม่ว่าจะเรื่องคดีความต่างๆ หรือการที่มีกลุ่มบุคคลพยายามมาระรานสิทธิเสรีภาพการเดินทางของตน หลังจากนี้ก็จะทำงานอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ ไม่หวาดหวั่นสิ่งที่เข้ามาคุกคาม
สำหรับกระแสการทำรัฐประหารนั้น ตนเชื่อว่าไม่ใช่ทางออก เพราะพิสูจน์แล้วว่าแก้ปัญหาไม่ได้ วิกฤตครั้งนี้ ก็เกิดจากการรัฐประหารเดือนกันยายน ปี 2549 หากทุกฝ่ายยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นยังคงมีทางออกที่สันติอยู่ ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับวิธีการนี้
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้(25 พ.ย.) ขอฝากตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐให้ใช้ขันติธรรม รับฟังสิ่งที่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนออกมาพูด การเลือกชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพราะข้อเสนอของเขาไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ที่มีผู้ลงชื่อจำนวนมากกลับถูกตีตกไม่ได้รับพิจารณา แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีเหตุบานปลาย ไม่เชื่อว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนทางสังคมมากพอจะทำรัฐประหาร
ส่วนเรื่องการพิจารณาการนำ ม.112 กลับมาใช้กับผู้เห็นต่างนั้น มองว่าเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ เวลานี้ไม่ใช่เวลามาไล่จับกุมกัน หากยังเชื่อว่าตนอยู่เบื้องหลังก็เริ่มต้นผิดแล้ว นี่คือเสียงของยุคสมัย สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือเปิดใจให้กว้างและยอมรับความจริงของสังคมอย่างมีวุฒิภาวะ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ตนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่น หากมีโอกาสเข้าร่วมชุมนุมก็เข้าอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา
นายธนาธร กล่าวถึงกรณีศาลยกคำร้อง ส.ส.พรรครัฐบาล ถือหุ้นสื่อ โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ชี้แจงว่าหุ้นส่วนบริษัทที่ถืออยู่นั้นได้ปิดกิจการไปแล้ว ขอให้ดูเจตนา ทั้งที่ของตนก็ปิดไปแล้วและไม่คิดรื้อฟื้น ศาลยังบอกว่า น.ส.ภาดา ไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อเมื่อเจ้าตัวแสดงเจตนาแล้วก็ไม่เป็นสื่อ ของตนก็เช่นกันไม่ว่าจะกิจการไหน
ขอให้ติดตามการทำงานขององค์กรอิสระที่มาจากการรัฐประหารและอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน หากเปิดใจรับฟังจะเห็นว่าหลักฐานการขายหุ้นของตนทุกอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย แม้แต่ในชั้นศาลก็ไม่มีหลักฐานใดมาหักล้างได้เลย
ทั้งนี้สถานการณ์การชุมนุมจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป หากมีความคืบหน้าจะมารายงานให้ทราบต่อไป
เรียบเรียง siamtoday