เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ ร.ต.อ.รัชพล เทียมสะคู รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการเอาผิด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และพวก

ในฐานความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 157) โดยอ้างว่าร่วมกันแถลงข่าวอันเป็นเท็จก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ กรณีจับเคตามีนที่โกดัง จ.ฉะเชิงเทรา 11.5 ตัน มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมศักดิ์ นายวิชัย ในความผิดตาม มาตรา 157 โดยนำหลักฐานเป็นคลิปการแถลงข่าว มามอบให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เพราะกระทรวงยุติธรรม และ ป.ป.ส. เป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ ในการตรวจสอบยาเสพติด ในวันแถลงข่าวดังกล่าว มีการเชิญนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมตรวจสอบ

ผลลัพธ์ที่ได้ก็พบว่าผลตรวจเป็นสีม่วง ถือว่าเป็นยาเสพติด แต่ภายหลังไม่กี่วันกลับมีการแถลงข่าวอีกครั้งว่า สารที่พบดังกล่าวไม่ใช่ยาเสพติด และผลการตรวจก็เป็นสีขาว พร้อมให้เหตุผลว่า เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วง ส.ค.63 นายอภิชาติ ซึ่งเป็นชาวม้ง นำของกลางมาไว้ที่โกดัง จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นวันที่ 3 ก.ย. มีชิปปิ้งนำของกลางขนส่งไปทางท่าเรือคลองเตยและท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อส่งออกไปยังไต้หวัน กระทั่งวันที่ 26 ก.ย. ไต้หวันจับกุมของกลางและส่งหลักฐานมาให้เจ้าหน้าไทยดำเนินการ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ไทยไม่ได้ออกหมายจับ แต่กลับขยายผลไปตรวจค้นและยึดของกลางมาแถลงข่าวเสียก่อน

จึงทำให้เกิดความเสียหาย ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่ามี ความผิดปกติในการเก็บของกลาง เพราะปกติจะต้องมีลายเซ็นกำกับไว้ในของกลางเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้าย แต่ครั้งนี้ กลับพบว่าไม่มีการเซ็นกำกับ รวมทั้งเก็บของกลางอย่างไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ที่ผ่านมามีการนำยาเสพติดส่งออกต่างประเทศหลายครั้ง ไต้หวันได้ประสานทางการไทยแต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ อัจฉริยะ แจ้งความตำรวจ ปปป.เอาผิด รมว.ยุติธรรม-เลขาฯ ป.ป.ส. ผิด ม.157 ปมแถลงเท็จจับเคตามีนลอตใหญ่ 11.5 ตัน มูลค่า2หมื่นล้าน ชี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ

เรียบเรียง siamtoday