หากเอ่ยถึงชื่อนี้หลายคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีเป็นทั้งผู้กำกับหนังและแมวมอง อย่าง พชร์ อานนท์ ที่บอกเลยว่าหากใครกำลังมีกระแสก็จะจับมาปั้นให้ดังจนมีชื่อเสียง

ผู้กำกับมากฝีมือกับภาพยนตร์ไทยที่ผลงานอย่างต่อเนื่องมายาวนานเกือบ 30 ปี และสร้างผลงานไว้มากมาย ซึ่งชีวิตก่อนหน้านี้หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า พชร์ อานนท์นั้นเคยลำบากมาก่อน

ซึ่งกว่าจะมาเป็นผู้กำกับ 100 ล้านนั้น ชีวิตของพชร์ อานนท์บอกเลยว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมาถึงจุดที่มีทุกอย่างในชีวิตนั้น เขาผ่านอะไรมาบ้าง

พชร์ อานนท์เล่าว่า เขามาจากครอบครัวที่ยากจนมากๆ บ้านอยู่ที่ซอยนานา ใช้ชีวิตแบบเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย

เสิร์ฟอาหาร ขายไม้ขีด รับจ้าง กระเป๋ารถเมล์ก็เคยเป็น ทำทุกอย่าง ได้เงิน เดือนละ 600 ถึง 800 บาท เมื่อจบ ม.6 อยากเรียนมหาลัยแต่ก็ไม่มีเงินเรียน

ก็เลยเลือกเรียนที่รามคำแหง จากนั้นก็มีคนชวนเราไปถ่ายแบบ ชีวิตเราก็เลยเริ่มเปลี่ยนไป แต่ตนก็ไม่ชอบเท่าไหร่จึงเปลี่ยนไปเป็นทำ fashion Stylist ถ่ายโฆษณาลงหนังสือ

ซึ่งทำแบบนั้นอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นบก.บริหารลาออกไป เจ้าก็นายก็ให้ขึ้นเป็นบก.แทน ตอนนั้นอายุ 19 เงินเดือน 14000

จุดเปลี่ยนที่กลายมาเป็นผู้กำกับหนังเริ่มประมาณ 2535 ถึง 2536 เริ่มมีคนในสังกัดที่ดังๆ อย่างน้องมอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ กับ เต๋า สมชาย เข็มกลัด ตอนนั้นมีคนมาขอคนของเราไปเล่นหนังและก็ให้ยืม

ตอนนั้นเลยไปกองถ่าย ไปเยี่ยมดูว่าเขาทำงานกันอย่างไร ถ่ายอย่างไร การจัดแสง วางกล้อง โดยส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้วพอมีโอกาสได้ไปข้างหลังกองถ่าย

ระหว่างที่ถ่ายกัน ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปดู เรียนรู้อยู่ประมาณ 2 ปี ทางค่าย Five Star คุณเชนกับคุณอ้วนเรียกเข้าไปคุย ถามว่าอยากเป็นผู้กำกับหนังไหม ตอนนั้นผู้กำกับเก่าๆ ต่อต้ า นมาก

แต่เจ้าของบริษัทเขาให้ทำ ลองไปหาเรื่องดูอยากทำเรื่องไหนบอกเขาช่วยเต็มที่ ก็เลยเป็นผู้กำกับ เรื่องแรกที่เริ่มถ่ายคือเรื่อง ส ติแ ต กสุดขั้วโลก ฉายในปี 2538 ทำรายได้เกือบ 50 ล้านบาท

รู้สึกภูมิใจมากที่รายได้เรื่องแรกประสบความสำเร็จ จากการที่กำกับเอง ใช้วิธีศึกษาเอง ปฏิบัติเอง อยู่ในวงการนี้เสียงวิจารณ์ค่อนข้างเยอะ หนังไทยเป็นหนังดีถ้าเป็นหนังทำเงิน

ส่วนรายได้จากการเป็นผู้กำกับหนัง หากใช้เงินเป็นก็รวยนะต้องรู้จักประหยัดแต่ว่าพชร์ อานนท์ไม่ได้ทำแค่หนังอย่างเดียว ยังเป็นบรรณาธิการนิตยสาร เริ่มมาเป็นพิธีกรอีก เลยมีเงินเก็บมาเรื่อยๆ

หนังที่ทำรายได้ให้พชร์ อานนท์มากที่สุดก็คือเรื่องหลวงพี่แจ๊ส 4 G ที่สามารถกวาดรายได้ไปถึง 600 ล้านบาท เคล็ดลับของพชร์ อานนท์ยังไม่หมดแค่นั้น

เขาสามารถอยู่ในวงการผู้กำกับหนังมานา 30 ปี เพราะเอานายทุนเป็นหลัก แล้วตอบโจทย์นายทุน นายทุนอยากได้หนัง ก็ทำให้ พอหนังมันได้เงิน ก็ได้ทำหนังต่อ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เพราะว่า หนักมาตลอดทั้งชีวิตแหละ ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยหยุดเลย ตั้งแต่อายุ 19 จนถึงปัจจุบัน กว่าจะมาเป็นผู้กำกับ 100 ล้านต้องผ่านความยากลำบาก

จากฐานะครอบครัว ทั้งกระแสวิพากษวิจารณ์ ชีวิตเรื่องเงินและงานของ พชร์ อานนท์ ผู้กำกับหนังที่อยู่คู่กับวงการภาพยนตร์ของไทยมาเกือบ 30 ปี

แค่บ้านก็อลังการ

ห้องน้ำก็สวยหรู

ขอบคุณ พชร์ อานนท์

เรียบเรียง siamtoday